World News

‘วอลล์สตรีท’ ดิ่ง ความหวังเจรจาการค้าวูบ เหตุสหรัฐขึ้น ‘บัญชีดำ’ บริษัทจีนเพิ่ม

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (8 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลงอย่างหนัก ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุน ก่อนหน้าที่การเจรจาการค้าระดับสูงระหว่างจีน กับสหรัฐ จะเปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ (10 ต.ค.) หลังมีรายงานว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเดินหน้าในความพยายามที่จะจำกัดเงินทุนไหลเข้าไปยังตลาดจีน และการเพิ่มจำนวนบริษัทแดนมังกรในการขึ้นบัญชีดำ

s1

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดร่วงลง 277.60 จุด หรือ 1.05% ที่ 26,200.42 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับลงมา 36.04 จุด หรือ 1.23% ที่ 2,902.75 จุด และดัชนีแนสแด็กลดลง 98.14 จุด หรือ 1.23% ที่ 7,858.15 จุด

ตลาดยังมีความวิตกเพิ่มมากขึ้น หลังเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานว่า จีนลดการคาดการณ์ถึงผลลัพธ์จากการเจรจาการค้า ก่อนหน้าที่การประชุมจะเริ่มต้นขึ้น และคณะเจรจาของจีน อาจจะเดินทางออกจากกรุงวอชิงตันเร็วกว่ากำหนดที่วางไว้

นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดมองดูแล้วว่า ไม่ค่อยมีความหวังที่จีน กับสหรัฐ จะบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างสมบูรณ์ในเร็ววันนี้ ซึ่งก็เป็นเรื่องเพียงพอแล้ว ที่จะทำให้นักลงทุนระงับการเข้าซื้อในตลาด

การที่สหรัฐประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีจีนเพิ่มอีก รวมถึง ไฮค์วิชัน ผู้ผลิตกล้องวงจรปิด และเจ้อเจียง ต้าหัว เทคโนโลยี ผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับกล้องวงจรปิด ทำให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงจากกรุงปักกิ่ง

สถานการณ์ดังกล่าว ยังสร้างแรงกดดันให้กับซัพพลายเออร์สหรัฐ ฉุดให้ราคาหุ้นของอินเทล และ เอ็นวิเดีย คอร์ป ร่วงลงราว 1% ส่วนหุ้นแอมบาเรลลา ดิ่งลงไปถึง 12%
ดาวโจนส์ยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากราคาหุ้นโบอิง โค ที่ร่วงลงไป 1.5% หลังจากมีรายงานว่า ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ กับยุโรป อาจทำให้ความพยายามที่จะทำให้ 737 แม็กซ์ เครื่องบินรุ่นขายดีสุดของโบอิง กลับมาบินได้อีกครั้งนั้นต้องล่าช้าออกไปอีก

ความเสี่ยงที่มีอยู่เต็มตลาดหุ้น ทำให้นักลงทุนพากันหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หนุนให้ราคาทองคำทะยานขึ้นมาเกือบ 1% และผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง

Avatar photo