ผู้บริโภคญี่ปุ่นหันมาใช้วิธำระเงินผ่านมือถือ และเงินอิเล็กทรอนิคส์มากขึ้น หลังภาษีผู้บริโภคขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 10% ในเดือนนี้ ช่วยหนุนความพยายามของรัฐ ที่ต้องการผลักดันให้เกิดการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ในประเทศที่เงินสดยังคงเป็นช่องทางใช้จ่ายหลักอยู่
ในความพยายามที่จะลดผลกระทบจากการขึ้นภาษีผู้บริโภค ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดโครงการคะแนนสะสม ระยะเวลา 9 เดือน สำหรับการรับชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ผู้ค้าปลีกรายย่อย ขณะที่ผู้บริโภคจะได้รับส่วนลด 2% หรือ 5% จากยอดการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึง การชำระเงินผ่านบัตรเครดิต
โครงการคะแนนสะสมดังกล่าว อาจเป็นการสร้างความก้าวหน้าครั้งใหญ่ ในความพยายามที่จะเปลี่ยนญี่ปุ่น จากประเทศที่นิยมการจ่ายเงินสด ให้กลายเป็นสังคมไร้เงินสด
ข้อมูลจากสมาคมชำระเงินญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน เพื่อการส่งเสริมเศรษฐกิจไร้เงินสด แสดงให้เห็นว่า ในปี 2559 ญี่ปุ่นมียอดการชำระเงินที่ไม่ได้จ่ายด้วยเงินสด คิดเป็นสัดส่วนราว 20% เท่านั้น เทียบกับเกาหลีใต้ที่ 96.4% และจีนที่ 65.8% ซึ่งรัฐบาลโตเกียวตั้งเป้าที่จะทำให้ญี่ปุ่นมีอัตราการชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสดราว 40% ภายในปี 2568
ล่าสุด ความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มแสดงผลให้เห็นบ้างแล้ว โดยโครงการสะสมคะแนนข้างต้น ได้รับความนิยมอย่างมากตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ
แฟมิลีมาร์ท ระบุว่า ระหว่างวันที่ 1-6 ตุลาคมที่ผ่านมา มีการจ่ายเงินซื้อสินค้าแบบไร้เงินสดเพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะลูกค้าของลอว์สัน จ่ายเงินด้วยวิธีสแกนบาร์โค้ด ในช่วง 4 วันแรกของเดือนนี้ เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายนที่ผ่านมาถึง 50%
บรรดาผู้บริโภคญี่ปุ่นเอง ก็แสดงให้เห็นถึงความตื่นตัวที่ได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าว
อีสต์ เจแปน เรลเวย์ ผู้ให้บริการรถไฟของญี่ปุ่น บอกว่า มีผู้สมัครใช้บัตรเงินสดของบริษัท เพื่อรับคะแนนสะสมในเดือนนี้เพิ่มขึ้นถึง 480,000 ราย หรือสูงกว่าเมื่อเดือนสิงหาคมถึง 14 เท่า ส่วนราคูเท็น ผู้ค้าปลีกออนไลน์ มีผู้ใช้งานบัตรเงินสดของบริษัทเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า จากค่าเฉลี่ยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟน ก็เร่งเปิดบัฐชีในแอปพลิเคชันชำระเงินผ่านมือถือรายต่างๆ โดยผู้สมัตรใช้บริการไลน์เพย์ ของไลน์ ผู้ให้บริการแชทชื่อดังเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ทะยานขึ้นถึง 180% จากเดือนก่อนหน้านี้
ทางด้านเมอร์คาริ แอปขายของมือ 2 เปิดเผยว่า มีผู้ลงทะเบียนใช้บริการเมอร์เพย์ 4 ล้านรายในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าจากไตรมาสก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกับเพย์เพย์ บริการชำระเงินสดออนไลน์ ในเครือซอฟท์แบงก์ คอร์ป ที่มีผู้สมัครสมาชิกใหม่ 5 ล้านราย ในช่วง 2 เดือนนับถึงวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้มีลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 15 ล้านรายแล้ว
ที่มา : Nikkei Asian Review
