“KTBST” ประเมินหุ้นไทยวัปดาห์นี้แกว่งระดับ 1,580- 1,600 จุด แนะถือเงินสด 50% รอจังหวะ
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ (7-11 ต.ค.) ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจ คือเรื่อง การเจรจาการค้าของสหรัฐกับจีน ในวันที่ 10 – 11 ตุลาคม 2562 ซึ่งมีความสำคัญเพราะจะมีผลต่อทิศทางของเศรษฐโลกว่าจะเกิดภาวะถดถอยหรือไม่ แม้โอกาสที่การเจรจาจะจบลงในเชิงบวกมีสูงก็ตาม แต่จะเห็นได้ว่าช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณซื้อขายชะลอตัวลง ส่วนหนึ่งมาจากรอดูผลการเจรจาดังกล่าวซึ่งเราจะทราบผลคือปลายสัปดาห์นี้ ทำให้ตลาดน่าจะมีความผันผวนตามข่าวในแต่ละวัน
ทั้งนี้ ภาพรวมของตลาดมีความต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน KTBST มองว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาลบจะทำให้โอกาสที่รัฐบาลหรือธนาคารกลางของ สหรัฐ ยุโรป จีน และญี่ปุ่น อาจพิจารณาเพิ่มแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ หากเกิดขึ้นจริงจะทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวขึ้นได้ ส่วนปัจจัยในประเทศ ตลาดได้แรงกระตุ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้เงินบาทยังถูกเป็นที่พักเงินต่อไป ขณะที่การขายของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดเกิดใหม่ช่วงนี้ก็มาจากการลดความเสี่ยงก่อนการเจรจาการค้า สำหรับประเด็นที่ต้อติดตามในสัปดาห์นี้ คือรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) ในวันที่ 10 ตุลาคม และรายงานตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย รวมทั้งการเตรียมรายงานผลกำไรไตรมาส 3 ของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินของไทย
ส่วนกลยุทธ์ลงทุนนั้น KTBST ยังแนะนำให้ติดตามและรอดูผลการเจรจาการค้าก่อนตัดสินใจเพิ่มหรือลดพอร์ตลงทุน โดยผลการเจรจาที่ออกมาคาดว่าจะไปมีผลต่อตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า KTBST จึงแนะนำถือเงินสด 50% เพราะนอกจากปัจจัยการเจรจาการค้าแล้ว ยังไม่มีปัจจัยอื่นที่จะทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นไปได้มากนัก โดยแนวรับสำคัญจะอยู่ระดับ 1,580- 1,600 จุด
สำหรับหุ้นแนะนำยังเป็นหุ้นที่ราคาไม่ขึ้นไปสูงมากและหลีกเลี่ยงหุ้นที่เคยได้ประโยชน์จากสงครามการค้า เช่น โรงไฟฟ้า หุ้นที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ คือหุ้นที่มีพื้นฐานดี เช่น AOT และ ADVANC รวมไปถึงหุ้นที่ถูกคาดการณ์ว่ากำไรไตรมาส 3 จะออกมาดี เช่น MTC , AMATA รวมไปถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง เช่น VGI และ JMT KTBST ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ 1,580-1,640 จุด
