ศาลฮ่องกงไม่รับคำร้องขอให้ศาลออกคำสั่งฉุกเฉินต่อต้านคำสั่งของคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง ที่ห้ามสวมหน้ากากเข้าร่วมการชุมนุม ขณะกลุ่มผู้ประท้วงพากันออกมาตามท้องถนนอีกครั้ง เพื่อท้าทายคำสั่งห้ามดังกล่าว แม้สถานีรถไฟใต้ดินกว่าครึ่งหนึ่งของเกาะฮ่องกง ยังปิดให้บริการอยู่
วันนี้ (6 ต.ค.) สมาชิกสภานิติบัญญัติฮ่องกง ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลสูงฮ่องกง เพื่อขอให้ออกคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉิน ต่อคำสั่งห้ามสวมหน้ากากดังกล่าว โดยระบุว่า การประกาศใช้ภาวะฉุกเฉิน เป็นการข้ามขั้นตอนนิติบัญญัติ และเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญของฮ่องกง
อย่างไรก็ดี ผู้พิพากษาศาลสูงฮ่องกงปฏิเสธไม่รับคำร้องนี้
ทางด้านกลุ่มผู้ประท้วงก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันนี้ โดยมีการชุมนุมขึ้นทั้ง 2 ฝั่งของอ่าววิคตอเรีย ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยผู้ประท้วงบางรายแสดงความวิตกว่า คำสั่งห้ามสวมหน้ากากนี้จะเป็นก้าวแรกเท่านั้น และคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง น่าจะมีการประกาศกฎข้อบังคับอื่นๆ ตามมาอีก ภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉินนี้
ในวันนี้ สถานีรถไฟใต้ดินบนเกาะฮ่องกง เปิดให้บริการแล้ว 45 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 48 แห่งยังคงปิดอยู่ โดยส่วนที่ปิดนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในย่านใจกลางเมือง ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และในย่านที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากเหตุประท้วง ที่มีการบุกเข้าทำลายทรัพย์สินภายในสถานีด้วย
นางแคร์รี หลำ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกง ปกป้องการตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินของเธอ ที่ได้รับการสนับสนุนทั้งจากกลุ่มผู้สนับสนุนคณะเจ้าหน้าที่บริหาร และรัฐบาลปักกิ่ง พร้ัอมระบุว่า เธออาจจะต้องออกกฎข้อบังคับเพิ่มเติม หากความรุนแรงยังดำเนินต่อไป
- ผู้นำฮ่องกงประณาม ‘ผู้ก่อจลาจล’ ชี้ทำทุกคนกลัว ระบบขนส่งปิดตายทั้งเมือง
- ฮ่องกงประกาศภาวะฉุกเฉิน ห้ามสวมหน้ากากร่วมประท้วง
- ย้อนรอย 4 เดือน ‘ฮ่องกง’ เดือด
