กรมควบคุมโรคเตือน ยังต้องระวัง “โรคไข้ปวดข้อยุงลาย” 5 จังหวัดป่วยสูงสุด เหตุฝนยังตกต่อเนื่อง ย้ำน้ำท่วมขังเป็นแหล่งเพาะพันธ์ุยุงลาย ชวนชุมชนร่วมมือมาตรการ 3 เก็บ
กรมควบคุมโรค ขอเผยแพร่ “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์” วันที่ 6 – 12 ตุลาคม 2562 ถึงสถานการณ์โรค “ไข้ปวดข้อยุงลาย” ในปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–1 ตุลาคม 2562 พบผู้ป่วยรวม 7,866 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 25-34 ปี
จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ปัตตานี ระนอง ตาก ภูเก็ต และสงขลา ตามลำดับ จากระบบเฝ้าระวังโรคของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าในภาพรวมมีผู้ป่วยสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลังค่อนข้างมาก และเริ่มพบผู้ป่วยมากขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าช่วงนี้จะพบผู้ป่วยโรคไข้ปวดข้อยุงลายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำขังตามภาชนะและวัสดุต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายที่เป็นพาหะนำโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ซึ่งโรคนี้มียุงลายเป็นพาหะนำโรค พบได้ในทุกกลุ่มอายุ
อาการที่พบ คือ ไข้เฉียบพลัน ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการปวดข้อ ข้อบวมแดงอักเสบ และเจ็บ อาการปวดข้อจะหายภายใน 2-3 วัน บางรายอาจเป็นเรื้อรังอยู่หลายเดือนหรือเป็นปี
กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชน ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ทุกพื้นที่ ร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดโรคไข้ปวดข้อยุงลาย รวมถึงโรคไข้เลือดออก และโรคติดเชื้อไวรัสซิกาด้วย
โดยเน้นใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ
1.เก็บบ้าน ให้ปลอดโปร่ง เพื่อไม่ให้ยุงลายเกาะพัก
2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
3.เก็บน้ำ ปิดให้มิดชิดไม่ให้ยุงลายวางไข่ ภาชนะที่ปิดฝาไม่ได้ให้ปล่อยน้ำทิ้ง หรือเปลี่ยนน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์
นอกจากนี้ ควรป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยทายากันยุง นอนในมุ้งแม้เป็นช่วงเวลากลางวัน หากพบว่ามีอาการป่วยดังกล่าวข้างต้น ไม่ควรซื้อยากินเอง ขอให้รีบไปพบแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422