ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เตรียมปิดโรงงานผลิตมือถือแห่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ในจีนสิ้นเดือนนี้
ก่อนหน้านี้ ซัมซุง ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนโลก ได้ประกาศว่า จะลดกำลังผลิตที่โรงงานของบริษัทในเมืองฮุ่ยโจว ทางตอนใต้ของจีน ตามด้วยการปิดโรงงานอีกแห่งหนึ่งในเทียนจิน เมืองท่าสำคัญของจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว
ในปี 2560 โรงงานเมืองฮุ่ยโจว ของซัมซุง ผลิตสมาร์ทโฟนได้ทั้งหมด 64 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นสัดส่วนค่อนข้างมาก ในยอดการผลิตมือถือทั่วโลกของบริษัทที่มีอยู่ราว 394 ล้านเครื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ ในปี 2554 โรงงานแห่งนี้ ผลิตได้ทั้งหมด 70 ล้านเครื่อง ส่วนโรงงานที่เมืองเทียนจินมีกำลังผลิตทั้งหมด 56 ล้านเครื่อง
การปิดโรงงานแห่งสุดท้ายนี้ ไม่ได้หมายความว่า ซัมซุงถอนตัวออกจากตลาดจีนอย่างสิ้นเชิง โดยบริษัทยังจะจำหน่ายสมาร์ทโฟนในตลาดนี้ต่อไป แต่การแข่งขัน กับแบรนด์ท้องถิ่นที่เป็นไปอย่างรุนแรง หมายความว่า จีนได้กลายเป็นตลาดที่ไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ที่จะต้องเปิดโรงงานผลิตในท้องถิ่นอีกต่อไป
ปัจจุบัน ซัมซุงยังคงเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่สุดของโลก มียอดขายเมื่อปีที่แล้วราว 290 ล้านเครื่อง และครั้งหนึ่งเคยครองส่วนแบ่งในจีน ตลาดสมาร์ทโฟนที่มีขนาดใหญ่สุดของโลก ถึง 15% แต่ส่วนแบ่งตลาดก็ร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเหลือเพียง 1% เท่านั้น จากการสูญเสียตลาดให้กับคู่แข่งเจ้าบ้าน อย่าง หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ และเสี่ยวหมี่
การที่ค่าแรงในจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซัมซุงเริ่มย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนาม และอินเดีย ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2000 ซึ่งปัจจุบัน เวียดนามก็กลายมาเป็นศูนย์กลางการผลิตสมาร์ทโฟนป้อนตลาดโลกของซัมซุงไปแล้ว มีการจ้างงานราว 200,000 คน ทั้งยังเป็นฐานการผลิตที่ปลอดภัยจากสงครามการค้าจีน และสหรัฐด้วย
