Business

อินทัช-ออมสิน-SET ลงทุน YDM Thailand รับยุคดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ CEO บริษัท วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ จำกัด 1
นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ CEO บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด

วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) นำทีม 7 บริษัทในเครือ เปิดตัว 3 ผู้ร่วมทุนใหม่ “อินทัช-ธนาคารออมสิน-ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” มูลค่า 90 ล้านบาท ตั้งเป้ารุกธุรกิจดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคเต็มรูปแบบ พร้อมประกาศเปิดแพลตฟอร์มใหม่ด้านมาร์เก็ตเพลสภายในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ รวมถึงแผนนำบริษัทฯ เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี  2563 ด้วย

ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาสำหรับธุรกิจดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ของไทยที่ได้รับการยอมรับว่านำหน้าหลาย ๆ ประเทศในภูมิภาคเดียวกัน เมื่อบริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด หนึ่งในเครือ Yello Digital Marketing (YDM) ประเทศเกาหลีใต้ออกมาประกาศรับการลงทุนจาก 3 ยักษ์ใหญ่ได้แก่

  • บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยโครงการ InVent มูลค่า 30 ล้านบาท
  • บริษัทเอ็น-เวสต์ เวนเจอร์ จำกัด และ บริษัท พรีเมียร์ แอ็ดไวซ์เซอรี่ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดการ กองทรัสต์ SME Private Equity Trust Fund โดย ธนาคารออมสิน
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (โดยในส่วนของธนาคารออมสินและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีการลงทุนรวมกัน 60 ล้านบาท)

ผลจากการลงทุนครั้งนี้ทำให้สัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) ประกอบด้วย Yello Digital Marketing 30%, กลุ่มอินทัช-ธนาคารออมสิน-ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 25% และกลุ่มวายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) 45%

สำหรับภาพของบริษัทในเครือวายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) ทั้ง 7 บริษัทนั้นต้องยอมรับว่า ค่อย ๆ ปรากฏชัดมากขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่ปีนี้ โดยประกอบด้วย

● Adyim : ผู้ให้บริการทางด้านการทำการตลาดออนไลน์ ให้บริการวางกลยุทธ์ออนไลน์, วางแผน Social Media, จัดซื้อสื่อออนไลน์, Bloggers, Influencers, SEO, SEM, จัดทำเว็บไซต์, VDO Production, พัฒนาแอปพลิเคชันมือถือ, Data Analysis, Big Data ฯลฯ
● Gottimize: เอเจนซีด้านการวางแผนและการซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์แบบเน้นผลลัพธ์
● Alt65 : เจ้าของ Revu แพลตฟอร์ม Micro influencer ที่มีนักรีวิวในเน็ตเวิร์กกว่า 8,000 คน และสร้างรีวิวมาแล้วกว่า หนึ่งหมื่นรีวิวบนโลกออนไลน์
● Adpocket: Mobile Screen Lock Ads แอปพลิเคชั่นที่เปลี่ยนหน้าจอมือถือให้เป็นพื้นที่โฆษณา ที่มีฐานผู้ใช้งานมากถึง 5 ล้านคน เติบโตจากปีก่อนหน้าที่มีเพียง 2 ล้านคน
● Doer: แพลตฟอร์มรับพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมีทีมฟรีแลนซ์ทำงานผ่านระบบมากกว่า 200 คน
● AVG: บริษัททำดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งสำหรับเจาะตลาดจีน และนักท่องเที่ยวจีนในไทย โดยเป็นบริษัทเดียวในไทย ที่เป็น Official Partner กับ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ในจีน Baidu, Tencent , Alibaba พร้อมกันทั้ง 3 บริษัท
● Nawin: บริษัท Creative Consulting ที่มีครีเอทีฟระดับโลก “กอลฟ์”- นันทวัฒน์ ชัยพรแก้ว มาช่วยให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจกับลูกค้า เริ่มต้นแต่การคิด Branding จนไปถึงการหา Business Model ใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งไอเดียในการทำโฆษณา

คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ พร้อมทีม CEO ทั้ง 7 บริษัทฯ ในเครือ
คุณธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ พร้อมทีม CEO ทั้ง 7 บริษัทฯ ในเครือ

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า ที่ผ่านมาทุกธุรกิจต่างได้รับผลกระทบจาก Digital Disruption ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมโทรคมนาคม, รถยนต์, สถาบันการเงิน, ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ฯลฯ โดยเราจะเห็นภาพของการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้งานและจะลดการจ้างงานมนุษย์ลงอย่างแน่นอนในอนาคต

“ปัจจุบัน ญี่ปุ่นนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้สร้างโฆษณาได้แล้ว หรือในจีนที่อาลีบาบานำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ในการเขียนบทความโฆษณาสินค้าของเขา หนึ่งนาทีเขียนได้ 2,000 ชิ้น นี่คือภาพที่เกิดขึ้นเมื่อเทคโนโลยีเข้ามา และนี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) ต้องมายืนอยู่ตรงนี้”

“เรามองว่า สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดในยุคดิจิทัลเป็นไปตามสโลแกนของบริษัท นั่นคือ Drive-Connect-Grow หรือก็คือต้องขับเคลื่อนตลอดเวลา ห้ามหยุด ต่อมาคืออยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องจับมือกันเป็นกลุ่มถึงจะไปรอด และสุดท้ายคือเลิกความคิดที่จะแข่งขันกัน แต่ให้ร่วมมือกันแล้วโตไปด้วยกัน”

หนึ่งในการร่วมมือที่พบได้ก็คือการจับมือกับ  Yello Digital Marketing จากเกาหลีใต้เพื่อนำนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาปรับใช้ เช่นเดียวกับการจับมือกับผู้ร่วมทุนรายใหม่ในวันนี้ที่จะทำให้ฐานลูกค้าของวายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) ขยายออกไปได้กว้างมากขึ้น

ไม่เพียงเท่านั้น จากเทรนด์ของวงการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งพบว่า ในตลาดต่างประเทศ ตัวเลขส่วนแบ่งตลาดของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เมื่อเทียบกับสื่อทั่วไปนั้นค่อนข้างสูง เช่น จีนปัจจุบันมีสัดส่วนโฆษณาดิจิทัลประมาณ 57%, สหราชอาณาจักร 60% และอเมริกา 30% ขณะที่มูลค่าเม็ดเงินที่แบรนด์ต่าง ๆ ใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัลในประเทศไทยในปี 2560 มีมูลค่า 12,402 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนแค่ประมาณ 10% ของมูลค่าการโฆษณาทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต 

นายคิมห์ สิริทวีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารการลงทุน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราสนใจในธุรกิจด้านดิจิทัล เอเจนซี่ และเห็นโอกาสในธุรกิจการตลาดดิจิทัลที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (DAAT) คาดการณ์ว่าในปี 2561 ตลาดโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นอีก 16% คิดเป็นมูลค่า 14,330 ล้านบาท การลงทุนครั้งนี้ยังเชื่อมโยงโอกาสในการแลกเปลี่ยน Innovation ด้านการตลาดดิจิทัลระหว่างกัน ทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ให้กับบริษัทและลูกค้าของกลุ่มอินทัช”

ขณะที่ นายพิเชฐ ธรรมวิภาค รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ กล่าวถึงการร่วมลงทุนใน YDM Thailand ว่า กองทุน SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสินร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้อนุมัติวงเงินลงทุนมูลค่ารวม 60 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้ผู้ประกอบการดิจิทัลไทยสามารถแข่งขันได้ และเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อสภาพโดยรวมของตลาด Digital Advertising ในประเทศไทย

สำหรับผลประกอบการของวายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) ปี 2560 ที่ผ่านมานั้นพบว่ามีผลประกอบการอยู่ที่ 380 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะมีเพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านบาท ส่วนในปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่มีแผนจะเข้าตลาดหุ้นนั้น บริษัทคาดการณ์ว่าจะผลประกอบการอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท

นายธนพลยังได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับการบุกตลาดต่างประเทศนั้น บริการหลัก ๆ ที่จะใช้ในการบุกเป็นเรื่องของแพลตฟอร์ม เช่น เรวู หรือ Adpocket โดยตลาดที่น่าสนใจคือเวียดนาม และสิงคโปร์ โดยเฉพาะเวียดนามที่มีอัตราการเติบโตสูงมากในขณะนี้

Avatar photo