World News

กิจกรรมการผลิตทรุด ฉุดดาวโจนส์ร่วงกว่า 200 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (1 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลดลง หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่า กิจกรรมโรงงานสหรัฐหดตัวลงในเดือนกันยายน แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ทำให้นักลงทุนกังวลมากขึ้นถึงผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ที่มีต่อเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของโลก

8fc0fa5e f80f 11e8 93b8 bdc844c69537 1280x720 103024

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุด ร่วง 262.52 จุด หรือ 0.98% มาอยู่ที่ 26,654.31 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 23.94 จุด หรือ 0.80% ที่ 2,952.80 จุด และดัชนีแนสแด็กลดลง 48.33 จุด หรือ 0.60% มาอยู่ที่ 7,951.01 จุด

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) แสดงให้เห็นว่า ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 47.8 ในเดือนที่ผ่านมา แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2552 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 50.2 จากระดับ 49.1 ในเดือนสิงหาคม

ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ และเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 2 โดยภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะหดตัวในเดือนสิงหาคม เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่มีการขยายตัวติดต่อกัน 35 เดือน

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้คำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกหดตัวลงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยการบริโภค คำสั่งซื้อใหม่ สต็อกสินค้าคงคลังเพื่อการส่งออกและนำเข้า หดตัวลงเช่นกัน ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นลดลง

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความในวันนี้ โจมตีนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐที่ซบเซา

“ตามที่ผมได้ทำนายไว้ นายเจอโรม พาวเวล และเฟดได้ปล่อยให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินทุกสกุล ทำให้ผู้ผลิตของเราได้รับผลกระทบ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่สูงเกินไป พวกเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของพวกเขาเอง และพวกเขายังไม่รู้ตัว ช่างน่าสมเพชจริงๆ”

Avatar photo