Branding

‘เซ็นทารา’ ผนึกสองยักษ์อสังหาฯญี่ปุ่น ปักธง ‘เซ็นทารา โอซาก้า’ มูลค่าหมื่นล้าน

โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ลงนามร่วมทุน ไทเซอิ-คันเดน สองยักษ์อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ประเทศญี่ปุ่น ลุยโรงแรมญี่ปุ่นแห่งแรก มูลค่าหมื่นล้านบาท ภายใต้ชื่อ เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า เจาะกลุ่มโรงแรม 5 ดาว ขนาด 515 ห้องพัก เปิดบริการกลางปี 2566 พร้อมรับงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ที่โอซาก้าปี 2568

71362

นายธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เปิดเผยว่า โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ได้ลงนามสัญญาร่วมทุนกับ บริษัท ไทเซอิ และบริษัท คันเดน เรียลลิตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนต์ สองบริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ด้านการก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อร่วมกันพัฒนา โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า โรงแรมระดับ 5 ดาว สุดหรู ความสูง 34 ชั้น ขนาดห้องพัก 515 ห้อง มูลค่าลงทุน 1 หมื่นล้านบาท เริ่มก่อสร้างต้นปีหน้า คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการกลางปี 2566

ทั้งนี้ เซ็นทาราได้จัดตั้งบริษัท เซ็นทารา เจแปน จำกัด ขึ้น เพื่อเป็นบริษัทร่วมทุนพัฒนาธุรกิจโรงแรมในประเทศญี่ปุ่น​ และในการร่วมทุนกับสองพันธมิตรดังกล่าว ได้จัดตั้งบริษัท เซ็นทารา สเปซิฟิก จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า ซึ่งเป็นครั้งแรกของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ที่บุกตลาดโรงแรมในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นการเปิดประตูให้แบรนด์เซ็นทารา เข้าถึงหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก อย่างเมืองโอซาก้า โดยมีประชากรถึง 2.7 ล้านคน เป็นเมืองศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกรองจากเมืองโตเกียวเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมองเห็นโอกาสจากการที่ โอซาก้าจะเป็นเจ้าภาพการจัดงาน เวิลด์ เอ็กซ์โป ซึ่งเป็นงานแสดงนิทรรศการที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานถึง 2.8 ล้านคนอีกด้วย และการบุกตลาดญี่ปุ่นครั้งนี้ ถือเป็นกลยุทธ์การขยายธุรกิจของเซ็นทาราในระยะยาว  ถือเป็นประเทศที่ 14 ของกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา พร้อมทั้งเน้นจับกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวโอซาก้า ประมาณ 80% ที่เหลือเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่ไปทำธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น

เซ็นทารา

ขณะเดียวกัน การขยายตลาดไปยังญี่ปุ่นครั้งนี้ ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเซ็นทารา ในการดำเนินกลยุทธ์การขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มรายได้และจำนวนโรงแรมของเครือเซ็นทาราให้เป็นสองเท่าภายในปี 2565 ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยที่ผ่านมา เซ็นทาราได้วางไมล์สไตน 3-5 ปี ในการขยายธุรกิจโรงแรมอยู่แล้ว ซึ่งหนึ่งประเทศเป้าหมายคือ ประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะคนไทยเข้าไปเที่ยวปีละ 1.1 ล้านคน เชื่อว่าจะมีโปรเจคอื่นๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต เช่น เกียวโต โตเกียว

ด้านนายมูเนทากะ อิโชดะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คันเดน เรียลลิตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเมนต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นับเป็นการร่วมทุนครั้งสำคัญของบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และเชื่อว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จเช่นกัน โดย คันเดนฯ เป็นบริษัทภายใต้เครือคันไซ อิเลกทริค เพาเวอร์ จำกัด ผู้รับผิดชอบการนำจ่ายกระแสไฟฟ้าให้เมืองสำคัญต่างๆ ในภูมิภาคคันไซ ประเทศญี่ปุ่น

ขณะที่ คันเดนฯก่อตั้งมานานกว่า่ 60 ปี มีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ อาทิ คอนโดมิเนียม บ้าน รวมถึงปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงแรม อาคารสำนักงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่ง เป็นต้น

นายคัทสึยูกิ คาไน ประธานบริหารอาวุโส บริษัท ไทเซอิ จำกัด กล่าวว่า โรงแรมแห่งนี้จะสร้างขึ้นในย่านนัมบะ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเมืองโอซาก้าและศูนย์กลางทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์ ในการนำการบริการแบบไทยมาสู่ญี่ปุ่น โดยไทเซอิ ถือเป็นบริษัทก่อสร้างที่เก่าแก่ และมีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งเป็นบนริษัทรับเหมาก่อสร้างในระดับสากล ที่มีธุรกิจหลักได้แก่ การก่อสร้างอาคาร, วิศวกรรมโยธาและการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

นัมบะ1

ปัจจุบัน โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา มีโรงแรมและรีสอร์ทที่ลงทุนและบริหารเอง 17 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศไทย 15 แห่ง โรงแรมแบรนด์โคซี่ 2 แห่ง และมัลดีฟส์ 2 แห่ง เซ็นทาราในอาหรับเอมิเรตส์ 1 แห่ง และในมัลดีฟส์อีก 2 แห่งอยู่ในระหว่างดำเนินการ รวม 5,507 ห้อง และเป็นโรงแรมและรีสอร์ทที่รับบริหารจัดการและเปิดให้บริการแล้ว 22 แห่ง ในประเทศไทย เวียดนาม ศรีลังกา โอมาน และกาตาร์ นอกจากนี้ยังมีอีก 24 แห่ง ที่ได้ลงนามบริหารจัดการเพิ่มเติมในประเทศไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว จีน กาตาร์ มัลดีฟส์ และตุรกีรวม 7,970 ห้อง ทำให้รวมทั้งหมดมีโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราทั้งสิ้น 68 แห่ง จำนวน 13,477 ห้อง

ขณะที่รายได้ของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราในปี 2561 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 9,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้รวม 9,358 ล้านบาท หากดูผลประกอบการย้อนหลัง 5 ปี พบว่า มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปี 2557 มีรายได้ 8,316 ล้านบาท ปี 2558 อยู่ที่ 9,046 ล้านบาท และปี 2559 มีรายได้อยู่ที่ 9,309 ล้านบาท

Avatar photo