Economics

ส่งออก2เดือนแรกโตพุ่ง13.8% สูงสุดในรอบ7ปี

ส่งออก
ภาพจาก www.egov.go.th

 

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 มีมูลค่า 20,365 ดอลลาร์ ขยายตัว 10.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ขณะที่ 2 เดือนแรกของปี (มกราคม-กุมภาพันธ์) ส่งออกมีมูลค่า 40,467 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.8% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 7 ปี ด้านการนำเข้า กุมภาพันธ์ 2561 มีมูลค่า 19,557 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 16% ขณะที่ 2 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่า 39,778 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 20.1% ส่วนดุลการค้าในเดือนกุมภาพันธ์เกินดุล 807.6 ล้านดอลลาร์ จากที่ขาดดุล 119.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก่อนเหตุเพราะเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้ 2 เดือนแรกเกินดุล 688.5 ล้านดอลลาร์

โดยเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาการส่งออกที่ขยายตัวดีในทุกตลาด โดยเฉพาะสหรัฐ เอเชียใต้ อาเซียน และกลุ่ม CLMV นอกจากนี้ยังกระจายสู่ตลาดศักยภาพ และตลาดใหม่อื่นๆ เช่น ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลาง ตามแนวการสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และกระชับความสัมพันธ์เชิงรุก ขณะที่สินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมยังขยายตัวดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 โดยเฉพาะสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการส่งออกในรูปของดอลลาร์จะยังขยายตัวสูงขึ้น แต่ในรูปของเงินบาท การส่งออกกลับชะลอลง 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจาก ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด พบว่า ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้น เริ่มส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ส่งออก ดังนั้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหามาตรการดูแล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบกับรายได้ของผู้ส่งออกในระยะต่อไป ขณะที่ผู้ประกอบการจะต้องทำประกันความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง และอาจจำเป็นต้องทำประกันความเสี่ยงในระยะยาวขึ้น จากเดิมทำประกันความเสี่ยง 3 เดือน จะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 6 เดือนเป็นต้น

“ตอนนี้ทีมงานได้ติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาท รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าอย่างใกล้ชิด โดยจะรายงานทุกเดือน เนื่องจากเริ่มเห็นค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากจนกระทบรายได้ของผู้ส่งออก แต่ในด้านความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไม่ได้มีปัญหา นอกจากค่าเงินแล้ว ยังต้องติดตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ด้านผู้ประกอบการอาจต้องทำประกันความเสี่ยงนานขึ้น หรือ หันใช้เงินสกุลอื่นในการซื้อขาย ด้านกระทรวงพาณิชย์จะเร่งศึกษาและหาตลาดใหม่เพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มประเทศแอฟฟริกา และตะวันออกกลาง” นางสาวพิมพ์ชนก กล่าว

สำหรับการส่งออกในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าทั้งปีการส่งออกจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 8% หรือมีมูลค่าการส่งออกที่ 215,163 ล้านดอลลาร์ โดยมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% สูงสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักของไทย นอกจากนี้ ทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามอุปสงค์โลก และการปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงของกลุ่มผู้ผลิต OPEC และ Non OPEC จะส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นตาม

อย่างไรก็ตาม แม้การส่งออกจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง คือ ความไม่แน่นอนของนโยบายทางการค้าของประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และปัญหาความขัดแข้งทางการเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้งผลผลิตสินค้าเกษตรโลกที่มีโอกาสผันผวนตามสภาพอากาศ

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK