Politics

สำรวจคนไทยตื่นเช้าต้องดูข่าวเด็กติดถ้ำหลวง!!

321

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่องโพล พฤติกรรมคนติดตามข่าวสารช่วยเด็กนักเรียนออกจากถ้ำหลวง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวน1,052 ตัวอย่าง โดยดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 20 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมาเกินครึ่งหรือ 52.7% ตื่นเช้าขึ้นมา เปิดโทรทัศน์รับข่าวสาร เป็นอันดับแรก รองลงมาคือ 39.7% เปิดโทรศัพท์มือถือ และรองๆ ลงไปคือ วิทยุ คอมพิวเตอร์ และหนังสือพิมพ์ ตามลำดับ

และเมื่อถามว่าติดตามข่าวอะไรอันดับแรก พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 80.1% ระบุตื่นเช้าขึ้นมาติดตามข่าวเด็กนักเรียนติดถ้ำ รองลงมาคือ 7.5% ติดตามข่าวอาชญากรรม ความไม่ปลอดภัยของประชาชน และเพียง 6.5% เท่านั้นที่สนใจติดตามข่าวดูด ส.ส.เข้าพรรคการเมือง 4.0% ติดตามข่าวฟุตบอลโลก ในขณะที่ 1.1% ติดตามข่าวดารา บันเทิงและ 0.8% ติดตามข่าวหุ้นเศรษฐกิจ ตามลำดับ

เมื่อถามว่าติดตามข่าวช่วยเด็กนักเรียนติดถ้ำ ผ่านสื่อใดอันดับแรก พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 65.5% ยังคงติดตามข่าวช่วยเด็กติดถ้ำผ่าน สื่อกระแสหลักทั่วไป เช่น โทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ในขณะที่ 34.5% ติดตามข่าว ผ่านสื่อโลกโซเชียล ได้แก่ เว็บไซต์ข่าว ไลน์ ยูทูป ทวิสเตอร์ เป็นต้น

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือ 87.9% เพิ่งจะรู้ว่า ถ้ำหลวงยาวประมาณ 7 กิโลเมตร หลังมีข่าวเด็กนักเรียนติดถ้ำหลวง ในขณะที่เพียง 12.1% รู้มาก่อนแล้ว

นอกจากนี้เนื้อหาข่าวที่ประชาชนสนใจติดตามช่วยเหลือเด็กนักเรียนติดถ้ำ พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 68.7% ระบุข่าวการปฏิบัติการของหน่วยซีลของไทย ช่วยเด็กนักเรียนติดถ้ำ รองลงมาคือ 66.4% ระบุ พลังความรักความสามัคคีของคนในชาติ 55.1% ระบุการปฏิบัติการของทีมงานชาวต่างชาติ เช่น อังกฤษ สหรัฐฯ จีน ฯลฯ 47.8% ระบุการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ค้นหาเด็กนักเรียน 45.5% ระบุ การใช้ความเชื่อ ความศรัทธา สิ่งเหนือธรรมชาติ 32.8% ระบุ เทคนิคการนำเสนอข่าว ความน่าสนใจของการนำเสนอข่าว และ 28.9% ระบุอื่นๆ เช่น สุขภาพ และการดูแลช่วยเหลือทางการแพทย์ การพัฒนาถ้ำหลวง การใช้ประโยชน์แหล่งธรรมชาติของถ้ำหลวง เป็นต้น

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือ 95.7% ระบุ เห็นด้วยให้ถ้ำหลวงเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยว ยาวตลอดจนปากถ้ำ ถึง จุดพบเด็กนักเรียนติดอยู่ในถ้ำ ในขณะที่ 4.3% ไม่เห็นด้วย

เมื่อถามถึง สิ่งที่นักเรียนควรทำหลังจากได้รับการช่วยเหลือจนสุขภาพดีแล้ว พบว่า ส่วนใหญ่หรือ 87.2% ระบุ ควรแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง และสถาบันหลักของชาติ รองลงมาคือ 71.1% ระบุ ควร ขอบคุณเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการช่วยเหลือ 70.4% ระบุ ขอบคุณพ่อแม่ พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ 68.1% ระบุ บำเพ็ญประโยชน์ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน 66.7% ระบุ สัญญาว่าจะมีวินัย ปฏิบัติตามระเบียบ ไม่ทำผิดกฎเกณฑ์ 64.5% ระบุ สัญญาว่าจะเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ 59.4% ระบุ ตั้งใจเรียน 57.1% ระบุ ฝึกฝนเป็นนักฟุตบอลที่เก่งของประเทศและ 54.9% ระบุช่วยดูแลรักษา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามลำดับ

Avatar photo
Siree Osiri OHO BANGKOK