“สิงโตคำราม” ลบอาถรรพ์เอาชนะการดวลจุดโทษในศึกฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกหลังแม่นเป้าเอาชนะโคลอมเบียได้แบบหืดจับทั้งที่น่าจะเก็บชัยได้ตั้งแต่ในเวลาปกติแต่มาโดนตีเสมอช่วงทดเวลาแบบน่าเจ็บใจ
อังกฤษขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาที 57 จากจังหวะที่คาร์ลอส ซานเชซ ไปเหนี่นวรั้ง แฮร์รี่ เคน ล้มในกรอบโทษและเป็น เคน ที่รับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาดและน่าจะเก็บชัยเข้ารอบได้แต่ช่วงทดเวลานาที 90+3 โคลอมเบียตามตีจากจังหวะเตะมุมครั้งแรกของพวกเขา เยร์ริ มินา เทกตัวโขกอย่างเด็ดขาด แม้ คีแรน ทริปเปียร์ จะพยายามโหม่งเซฟบนเส้นประตูแล้ว แต่ก็ไม่พ้นบอลเช็ดคานเข้าไป ทำให้อังกฤษยังไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้เลยในฟุตบอลโลกครั้งนี้และต้องต่อเวลาพิเศษอีก30นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษไม่มีฝั่งไหนทำประตูเพิ่มได้ต้องดวลจุดโทษตัดสินและเป็น”สิงโตคำราม” ลบอาถรรพ์การดวลจุดโทษเอาชนะโคลอมเบียได้ 4-3 เป็นการชนะการยิงจุดโทษตัดสินได้เป็นครั้งแรกของอังกฤษในศึกฟุตบอลโลกหลังก่อนหน้านี้ 3 ครั้งแพ้รวดในปี 1990, 1998 และ2006 รวมถึงฟุตบอลยูโร 2004 และ 2012 ทำให้อังกฤษตีตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
สวีเดนมีเฮงได้ประตูชัยจากลูกยิงแฉลบเชือดสวิตเซอร์แลนด์ 1-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก2018ได้สำเร็จ
เกมนี้สวีเดนไม่มีเซบาสเตียน ลาร์สัน ที่ติดโทษแบน ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ขาด ฟาเบียน ชาร์ และ สเตฟาน ลิคสไตเนอร์ กัปตันทีมที่ติดโทษแบนเช่นกัน โดยครึ่งแรกทั้งสองทีมพยายามทำเกมรุกเข้าใส่แต่หาโอกาสยิงกันได้ไม่มากเท่าไหร่จึงยังเสมอกันอยู่ ขณะ
ที่ครึ่งหลังรูปเกมยังคล้ายเดิมกว่าจะมีประตูเกิดขึ้นต้องรอจนถึงนาที 66 เมื่อเอมิล ฟอร์สเบิร์ก ได้ซัดหน้าเขตโทษบอลไปแฉลบ มิชาเอล แลง เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ให้สวีเดนนำ 1-0
จากนั้นสถานการณ์ของ สวิตเซอร์แลนด์ แย่ลงไปอีกเมื่อ มิชาเอล แลง ไปจงใจทำฟาวล์ใส่ มาร์ติน โอลส์สัน ที่กำลังหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่ออกจากสนามทันที แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีประตูเพิ่มทำให้จบเกม สวีเดน เฉือนเอาชนะ
สวิตเซอร์แลนด์ 1-0
