ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา สองตัวเต็งแชมป์ต่างเก็บชัยได้ทั้งหมด “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่แม้เจองานยาก แต่ก็ยืดสถิติชนะรวด 7 นัดแรกได้สำเร็จ ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกกระซวก เอฟเวอร์ตัน 3-1 โดยหนึ่งประตูของ ราฮีม สเตอร์ลิง ทำให้เขาสร้างสถิติส่วนตัวในลีก ขณะที่ แฮร์รี่ เคน ที่ซัดหนึ่งตุงช่วย สเปอร์ส เชือด เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 ก็ทำสถิติเช่นกัน
เชฟฯ ยูไนเต็ด 0-1 ลิเวอร์พูล
- ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์สโมสรลิเวอร์พูล ที่ออกสตาร์ตด้วยการคว้าชัยรวด 7 เกมแรกของฤดูกาล (ครั้งแรกทำได้สมัยเป็น ดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 1990/91 ซึ่งตอนนั้นชนะรวด 8 นัดแรก)
- นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ยังถือเป็นเพียงทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ต่อจาก เชลซี ในฤดูกาล 2005/06 ที่ชนะรวด 7 เกมแรกของซีซั่น (เชลซี คว้าชัยรวดถึงเกมที่ 9)
- ลิเวอร์พูลคว้าชัยรวด 13 เกมหลังสุด ที่เจอกับทีมน้องใหม่ในศึกพรีเมียร์ลีก โดยกดไปถึง 36 ประตู และเสียแค่ 4 ประตูตลอดช่วงดังกล่าว
- ลิเวอร์พูลไม่แพ้เกมพรีเมียร์ลีก 24 นัดติดต่อกัน แต่สถิติดีสุดในการเล่นลีกสูงสุดยังคงอยู่ที่ 31 นัดติด สมัยเป็น ดิวิชั่น 1 ช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม ปี 1987 ถึงเดือนมีนาคม ปี 1988
- “หงส์แดง” คว้าชัยชนะในศึกพรีเมียร์ลีก ติดต่อกันเป็นเกมที่ 16 แต่ยังคงตามหลังสถิติสูงสุดที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคยทำไว้ 18 นัดติด ช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม ถึง ธันวาคม ปี 2017
- ประตูที่ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ยิงได้ ถือเป็นประตูที่ 22 ของเจ้าตัวที่ทำได้ในศึก พรีเมียร์ลีก รวมทั้งการเล่นให้ ลิเวอร์พูล และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แต่เกิดขึ้นในเกมเยือนแค่ 3 ประตูเท่านั้น
เชลซี 2-0 ไบรท์ตัน
- เชลซี ชนะเกมลีกทั้ง 9 นัดที่เจอกับ ไบรท์ตัน
- ลูกจุดโทษที่ จอร์จินโญ่ กองกลาง “สิงห์บลูส์” ยิงเข้าไป ถือเป็นประตูจากลูกจุดโทษที่ 100 ณ สังเวียนแข้ง สแตมฟอร์ด บริดจ์ (เชลซี 78 ลูก, ทีมเยือน 22 ลูก)
- วิลเลี่ยน กองกลาง “สิงห์บลูส์” ทำประตูในศึก พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม
- ไบรท์ตัน เก็บชัยชนะได้แค่หนเดียว จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 16 นัดหลังสุด (เสมอ 6 แพ้ 9)
สเปอร์ส 2-1 เซาธ์แฮมป์ตัน
- แฮร์รี่ เคน กองหน้าสเปอร์สยิงประตู “นักบุญ” ติดต่อกัน 6 นัดในศึก พรีเมียร์ลีก (รวม 8 ประตู) ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงแค่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (8 นัดติด VS สโต๊ค ซิตี้), จิมมี่ ฟรอยด์ ฮัสเซลเบงค์ (7 นัดติด VS เวสต์แฮม) และ โรเมลู ลูกากู (7 นัดติด VS เวสต์แฮม) เท่านั้น ที่ทำประตูใส่คู่แข่งรายเดิมติดต่อกันมากกว่า
- แซร์จ ออริเยร์ เป็นนักเตะ สเปอร์ส คนแรก ที่ถูกไล่ออกในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเหย้า นับตั้งแต่ ไคล์ นอห์ตัน เกมที่เปิดบ้านเจอกับ สโต๊ค ซิตี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2014
เอฟเวอร์ตัน 1-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
- ฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้ ทำประตูไปแล้วถึง 27 ประตู จากการลงเล่น 7 เกมแรก ซึ่งถือว่ามากสุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดอังกฤษ นับตั้งแต่ เอฟเวอร์ตัน ทำได้ในฤดูกาล 1894/95 ที่ยิง 27 ประตู จาก 7 เกมแรกของซีซั่น
- ราฮีม สเตอร์ลิง ดาวเตะ “เรือใบสีฟ้า” ทำประตูในระดับสโมสร (รวมทุกรายการ) ครบ 100 ลูก (แมนฯ ซิตี้ 77 ลูก, ลิเวอร์พูล 23 ลูก) โดย 50 ประตูแรก เกิดขึ้นจากการลงเล่น 231 เกม ส่วน 50 ประตูหลัง มาจากการลงเล่นแค่ 98 เกมเท่านั้น
- ดาบิด ซิลบา กองกลางแมนฯ ซิตี้ ทำสถิติคว้าชัยชนะในศึก พรีเมียร์ลีก ครบ 200 นัดเร็วสุดในประวัติศาสตร์ โดยทำได้จากการลงเล่นเพียง 289 เกมเท่านั้น ทุบสถิติเดิมของ จอห์น เทอร์รี่ ตำนานปราการหลัง เชลซี ที่คว้าชัยครบ 200 ครั้ง จากการลงเล่น 305 เกม
- เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพ แมนฯ ซิตี้ ทำไปแล้ว 8 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีแค่ เชส ฟาเบรกาส ในซีซั่น 2009/10 เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ทำได้ 8 แอสซิสต์ จาก 7 เกมแรกของฤดูกาลเช่นกัน