นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายในงานเสวนา “Future Construction 2019 : BUILT TO LAST” ที่สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (26 ก.ย.)ว่า ธุรกิจก่อสร้างมีคุณูปการต่อบ้านเมืองอย่างมาก เพราะนอกจากเป็นฝ่ายก่อสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ ไว้ขับเคลื่อนประเทศ ยังสร้างงานให้กับคนไทย ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินกระจายสู่ส่วนอื่นๆ ของประเทศ อันเกิดจากการขับเคลื่อนโดยภาคการก่อสร้าง
วันนี้ พรรคภูมิใจไทย เข้ามาดูแลกระทรวงสำคัญหลายกระทรวง และตราบใดที่ตนยังดูแลกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคขอยืนยันว่ารักผู้ประกอบการไทยมากกว่าต่างชาติแน่นอน
“ต้องผลักดันนโยบายเรื่องไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ เพราะคนไทยทำได้หมด เวลามีโอกาสไปเปิดรถไฟฟ้าร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียนนายกฯ ทุกครั้งว่า ทั้งหมดนี้ ฝีมือคนไทย วัสดุทุกอย่างก็มาจากประเทศไทย คนไทยทำได้หมด ทำไมต้องไปง้อต่างชาติ ยังได้นำเรียนอีกว่าถ้าจ้างบริษัทไทย เงินหมุนในประเทศ สร้างเศรษฐกิจเติบโต พร้อมไปกับพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ท่านตั้งใจฟัง และให้การตอบรับเป็นอย่างมาก”
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า เท่าที่ยังมีอำนาจรับผิดชอบ ต้องให้ประเทศไทยอุดหนุนผู้ประกอบการก่อสร้างไทย แล้วให้ทางนั้นอุดหนุนสินค้าไทยไปจนสุดกระบวนการ ถ้าทำสำเร็จ เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นแน่นอน เรื่องแบบนี้ พรรคภูมิใจไทย คิดอยู่ตลอด อาทิ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นราคายางตก ยางไทย ต้องนำมาใช้ประโยชน์ กลายเป็นนโยบายเรื่องแบริเออร์ขึ้นมา ถ้ากลัวว่าหนักไม่พอ วิศวกรของกรมทางหลวง เสนอให้เติมทรายลงไป ทรายก็ของไทย ได้ใช้ของไทยทั้งนั้น เงินถึงเกษตรกรด้วย
ต่อไปนี้ ประเทศไทยจะโตได้อีกมาก โดยตนศึกษาตัวเลขในฐานะเป็นรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งคุมกระทรวงคมนาคม และคุมกระทรวงหารท่องเที่ยวและกีฬา ยังมีการลงทุนอีกมากจากภาครัฐ นโยบายคือ จะให้คนเดียวผูกขาดรับงานไม่ได้ เราจะกระจายงานออกมา ให้ผู้ประกอบการไทย ได้แข่งขันกันอย่างเป็นธรรม
“การทำสัญญากับต่างชาติ ต้องไม่เสียเปรียบ ถ้าทางนั้นได้งานไปแล้ว ก็ต้องจ้างคนไทย ซื้อของไทย ให้ไทยได้ประโยชน์กลับคืนมา ต้องทำสัญญากันให้ชัดเลย นี่คือนโยบายของตน ซึ่งจะไม่ทิ้งคนไทย ไว้ข้างหลัง”
