องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้แบรนด์องค์กรเติบโต คงหนีไม่พ้นยอดขาย ซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายช่องทาง แต่ที่ยังทรงประสิทธิภาพและยังคงเป็นช่องทางหลักที่นำรายได้กว่า 70% ก็คือ Distribution Channel หรือช่องทางตัวแทนจำหน่าย ที่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั้งในรูปแบบของโมเดิร์นเทรด ห้างร้าน ตัวแทนจำหน่าย ดีลเลอร์ ยี่ปั๊ว หรือร้านค้าปลีก เป็นต้น ซึ่งยังไม่นับรวมร้านค้าหรือตัวบุคคลที่ไม่แสดงตัวตนอีกมากมายมหาศาล ซึ่งเป็นกลุ่มที่แบรนด์องค์กรต้องการเข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มนี้มากที่สุดด้วยเช่นกัน
นางสาวณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (Buzzebees) เปิดเผยว่า ล่าสุด บัซซี่บีส์ได้พัฒนาต่อยอดบริการ “Buzzebees Merchant Solution” แพลตฟอร์มที่เป็นการสื่อสารระหว่างแบรนด์องค์กร กับ ช่องทางตัวแทนจำหน่ายโดยตรง โดยหาจุดเชื่อมโยงและสร้างให้เกิดความผูกพันระหว่างแบรนด์ด้วย ซีอาร์เอ็ม พรีวิลเลจ และ ช่องทางจำหน่าย (Distribution Channel) ซึ่งหมายรวมถึงตัวแทนจำหน่ายรายเล็กรายใหญ่ เอเย่น ดีลเลอร์ ยี่ปั๋ว เอาท์เล็ท หรือสาขาต่างๆ หรือแม้แต่บุคคลรายย่อย ฯลฯ ซึ่งจะสามารถทำให้แบรนด์ได้รู้จักตัวตน ร้านค้า เข้าถึงประวัติการซื้อขาย ติดต่อสื่อสารได้โดยตรง และสามารถยิงแคมเปญการตลาดที่เหมาะสมเฉพาะกลุ่มได้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาและกระตุ้นยอดขายให้กับแบรนด์ได้ในเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เริ่มมีบทบาทในธุรกิจและมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีหลายแบรนด์ได้เข้ามาปรึกษาทั้งในเรื่องของการสร้างรอยัลตี้กับกลุ่มผู้บริโภค รวมถึงปัญหาที่พบในกลุ่ม Distribution Channel ด้วยเช่นกัน โดยบัซซี่บีส์สามารถเข้ามาตอบโจทย์และร่วมกันแก้ปัญหาร่วมกับแบรนด์ได้ในหลายๆ มิติ ยกตัวอย่าง แบรนด์สินค้าบริโภคที่มีชื่อเสียงและมีสินค้าเยอะมากแห่งหนึ่ง แต่พบว่ามีตัวแทนจำหน่าย ในประเทศเพียง 1,000 แห่ง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว มีบรรดาร้านค้าหรือบุคคลย่อยๆ อีกเป็นหลายพันรายทั่วประเทศที่กำลังขายสินค้าของแบรนด์นี้ แต่องค์กรไม่รู้จัก เพราะร้านย่อยๆ เหล่านี้เข้าไม่ถึงแบรนด์ แต่เข้ามาซื้อสินค้าจากร้านตัวแทนจำหน่ายที่มีอยู่ 1,000 แห่ง เพื่อนำไปขายต่อ ทำให้แบรนด์เสียโอกาสกระตุ้นยอดขายกับคนกลุ่มนี้ และไม่สามารถทำการตลาดโดยตรงได้
สำหรับแพลตฟอร์มของ บัซซี่บีส์ มีฟีเจอร์ Acquire
Dealer Online ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงคนกลุ่มนี้ โดยให้ร้านค้าหรือบุคคล Verify ตัวตนยืนยันผ่านระบบออนไลน์ โดยข้อมูลจะยิงตรงมายังแบรนด์ทันที หรือแม้แต่ร้านโชห่วยเล็กๆ รถเข็น หรือบุคคลธรรมดา ระบบก็สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่องค์กรจะสามารถเข้าถึงร้านค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งคนกลุ่มนี้ถือเป็นอีกปัจจัยขับเคลื่อนและผลักดันยอดขายให้กับแบรนด์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และการทำแคมเปญทางการตลาด ซึ่งบัซซี่บีส์สามารถปรับเปลี่ยน แคมเปญได้เฉพาะกลุ่ม โดยนำผลวิเคราะห์จากพฤติกรรมของร้านนั้นๆ เช่น ประวัติการสั่งซื้อสินค้าที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่คนนิยมซื้อ หรือสินค้าที่ขายดี ฯลฯ มาพัฒนาต่อยอดเป็นแคมเปญซึ่งมีเทคนิคหลากหลายวิธี
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ของ บัซซี่บีส์ ยังมีช่องทางการสื่อสารกันโดยตรง เช่น แบรนด์สามารถแนะนำร้านค้าต่างๆ โดยส่งรูปตัวอย่างการจัดวางสินค้าหน้าร้านหรือบนเชลฟ์ที่เหมาะสม ให้กับ ช่องทางจำหน่าย และให้ร้านค้าถ่ายรูปส่งกลับมาเข้าระบบ โดยระบุเงื่อนไขว่าถ้าร้านค้าที่จัดวางตามรูปที่แนะนำ จะได้รับคะแนนเพิ่ม 50 คะแนน เป็นต้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นยอดขายให้กับสินค้าแบรนด์อีกวิธีหนึ่ง เป็นต้น
ปัจจุบัน บัซซี่บีส์ก้าวสู่ปีที่ 8 ในฐานะผู้บุกเบิกและได้เปลี่ยนแลนด์สเคปการทำ ซีอาร์เอ็ม พรีวิลเลจ จากรูปแบบเดิมสู่ระบบดิจิทัล โดยได้สร้างความแตกต่างจากการนำผลวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคจาก บิ๊กดาต้า มาต่อยอดเป็น แมคคานิค แคมเปญ ทางการตลาดสำหรับเจาะกลุ่ม ช่องทางจำหน่าาย โดยบริษัทได้ออกแบบแพลตฟอร์มขึ้นเพื่อให้สร้างเอ็นเกจเมนต์ ระหว่างแบรนด์และตัวแทนจำหน่าย เป็นทั้งช่องทางการสื่อสาร และเครื่องมือที่สามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“บิ๊กดาต้าจะสามารถวิเคราะห์เพื่อหาแคมเปญให้เหมาะกับร้านนั้นๆ แบบ Customized และร่วมกันหากลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาและเสริมให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันร้านค้าตัวแทนจำหน่ายก็จะได้สิทธิประโยชน์หรือได้รับผลตอบแทนจากระบบพริวิลเลจที่คุ้มค่า และมีแรงกระตุ้นในการทำยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นโมเดลธุรกิจที่ วิน-วินร่วมกันทุกฝ่าย”นางสาวณัฐธิดากล่าว
