ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (26 ก.ย.) ขยับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังว่าสหรัฐ และจีนอาจยุติสงครามการค้าที่ยืดเยื้อมาเป็นปีได้ในไม่ช้านี้ สถานการณ์ที่หนุนให้นักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ความกังวลในเรื่องกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐลดลง
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดขยับขึ้นมา 50.06 จุด หรือ 0.23% ที่ 22,070.21 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงบวก 49.64 จุด หรือ 0.19% ที่ 25,994.99 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ 0.07% ที่ 2,957.36 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ สิงคโปร์ ขยับขึ้น 1.29 จุด หรือ 0.04% มาอยู่ที่ 3,127.11 จุด
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) ปิดที่ 26,970.71 จุด เพิ่มขึ้น 162.94 จุด หรือ 0.61% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,984.87 จุด เพิ่มขึ้น 18.27 จุด หรือ 0.62% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,077.38 จุด เพิ่มขึ้น 83.76 จุด หรือ 1.05%
นักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐจะสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนเร็วกว่าที่คาดไว้
“จีนจะไม่มีทางตามเราทัน ถ้าเรามีผู้นำที่ฉลาด เรามีรายได้เข้ามาหลายล้านล้านดอลลาร์ และพวกเขาสูญเสียหลายล้านล้านดอลลาร์ ทำให้พวกเขาต้องการทำข้อตกลงเป็นอย่างมาก โดยสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คุณคิดไว้” ทรัมป์ ระบุ
ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจ ที่แสดงให้เห็นว่า ยอดขายบ้านใหม่สำหรับครอบครัวเดี่ยวในสหรัฐ เมื่อเดือนสิงหาคม ฟื้นตัวขึ้นมามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาดัลลัส ยังชี้ว่า แนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ
ส่วนราคาน้ำมันล่วงหน้าในเอเชีย ช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวสูงขึ้น แม้จะมีสัญญาณถึงความระมัดระวังตัวในการเข้าซื้อของนักลงทุน ที่ยังจับตาแแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ปรับขึ้นมา 0.27% ที่ 56.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.29% มาอยู่ที่ 62.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
