World News

‘อาเซียน’ ผนึกกำลังคุม ‘ยักษ์ใหญ่’ เทคโนโลยี

รัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผนึกกำลังกัน เพื่อหาวิธีควบคุมบรรดาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก ในด้านต่างๆ รวมถึง ข่าวปลอม และการจัดเก็บภาษี ถือเป็นความคืบหน้าครั้งใหม่ของภูมิภาคนี้ ในการรับมือกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของอินเทอร์เน็ต

asean map

รอยเตอร์ส รายงานว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นเดิมพันที่ค่อนข้างสูงสำหรับ 2 ฝ่าย โดยในส่วนของรัฐบาลนั้น จำเป็นต้องพึ่งพาเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต และนวัตกรรม ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง ขณะที่บรรดาบริษัทเทคโนโลยี ก็มองประชากร 641 ล้านคนในภูมิภาคนี้ ที่นิยมใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมาเป็น เป็นตลาดหลักที่จะช่วยหนุนการขยายตัวของธุรกิจ

การริเริ่มใหม่ของชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง ความพยายามของอินโดนีเซีย ที่จะร่วมมือกับไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ในการเรียกร้องให้กูเกิล เฟซบุ๊ก และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ มีการเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมคอนเทนท์ และนโยบายด้านภาษี

“เมื่อรวมกันแล้ว พวกเราคิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของภูมิภาค” รูเดียนทารา รัฐมนตรีสื่อสารอินโดนีเซียระบุ และว่า อินโดนีเซียจัดเตรียมร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้บริษัทเทคโนโลยี ที่มีบริการออนไลน์ ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ในการให้บริการภายในท้องถิ่น แม้จะไม่ได้เข้ามาตั้งสำนักงานก็ตาม

ก่อนหน้านี้ ระหว่างการประชุมช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบของไทย ก็ได้เสนอต่อ 10 ชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ถึงการกำหนดให้บริษัทอินเทอร์เนจ และวีดิโอสตรีมมิง ต้องจัดตั้ง “ศูนย์ตรวจสอบ” ในท้องถิ่นขึ้นมา เพื่อรับมือกับข่าวปลอม

ไทยยังขอให้การหารือถึงวิธีการที่จะทำให้เศรษฐกิจในประเทศได้รับประโยชน์จากบรรดาบริษัทอินเทอร์เน็ตอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการกระทำผ่านทางจัดเก็บภาษี หรือค่าธรรมเนียม

จับภาพ 4

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สภาเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบโทรคมนาคมอาเซียน ได้ยอมรับในข้อเสนอเรื่องศูนย์ตรวจสอบของไทย ขณะเอกสารอีกชุดหนึ่งบ่งชี้ว่า แนวทางสำหรับเรื่องประโยชน์ทางเศรษฐกิจ จะรับรองอย่างเป็นทางการระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียนในเดือนพฤศจิกายนนี้

“ในฐานะกลุ่มอาเซียน ทำให้ีเรามีพลังต่อรองได้มากขึ้น และเมื่อรวมตัวเลขฐานผู้ใช้งานของเราในบริการต่าง อย่าง เฟซบุ๊ก ก็จัดว่ามีขนาดใหญ่มากพอที่จะทำให้เรามีอำนาจในการเจรจาได้” แหล่งข่าวระบุ

ทางด้านเอเชีย อินเทอร์เน็ต โคลิชัน (เอไอซี) หรือกลุ่มความร่วมมืออินเทอร์เน็ตเอเชีย ซึ่งมีสมาชิกรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง เฟซบุ๊ก กูเกิล อเมซอน ทวิตเตอร์ และไลน์ ระบุว่า อาเซียนมีความเสี่ยงที่จะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจดิจิทัล เว้นแต่ว่า การดำเนินนโยบายใหม่เป็นไปอย่างถูกต้อง

“ศักยภาพของเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคนี้ ใรแนวโน้มที่จะย่ำแย่ เพราะกฎระเบียบที่มากเกินไป หรือจากการเก็บภาษี และค่าธรรมเนียมตามอำเภอใจ” นายเจฟฟ์ เพน ผู้อำนวยการเอไอซีกล่าว พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ พุ่งความสนใจไปในเรื่องของความมือ และเป็นพันธมิตรกับอุตสาหกรรม

Avatar photo