ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ (24 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ส่วนใหญ่เป็นการเข้าช้อนซื้อเพื่อทำไร หลังจากที่เจอแรงเทขายต่อเนื่องมาหลายวัน โดยที่นักลงทุนยังจับตามองความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ อย่างใกล้ชิด
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดขยับขึ้นมา 51.21จุด หรือ 0.23% ที่ 22,130.30 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงบวก 116.85 จุด หรือ 0.45% ที่ 26,339.25 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ปรับขึ้น 8.05 จุด หรือ 0.27% มาอยู่ที่ 2,985.13 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 9.59 จุด หรือ 0.31% ที่ 3,152.83 จุด
ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) ที่ 26,949.99 จุด เพิ่มขึ้น 14.92 จุด หรือ 0.06% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,991.78 จุด ลดลง 0.29 จุด หรือ 0.01% ส่วนดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,112.46 จุด ลดลง 5.21 จุด หรือ 0.06%
นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนอย่างใกล้ชิด โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) และกระทรวงพาณิชย์ของจีนยืนยันว่า จีนและสหรัฐจะจัดการประชุมเพื่อเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีในเดือนตุลาคม หลังจากการเจรจาระดับรัฐมนตรีช่วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นไปอย่างสร้างสรรค์
นอกจากนี้ จีนยังได้สั่งนำเข้าถั่วเหลืองจำนวน 600,000 ตันจากสหรัฐ ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ที่จีนปรับเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากถั่วเหลืองที่นำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 25% ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
ตลาดยังคงกังวลถึงภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จากข้อมูลกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของกลุ่มประเทศยุโรป ที่ยิ่งทำให้ความวิตกเกี่ยวกับภาวะถดถอยเพิ่มมากขึ้น และบ่งชี้ว่า ยังต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีก
ขณะที่ราคาน้ำมันช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวลงเล็กน้อย แต่ยังได้แรงหนุนจากข้อกังขาในเรื่องที่ว่า ซาอุดีอาระเบียบจะสามารถฟื้นฟูผลผลิตได้อย่างเต็มที่ตามที่บอกไว้หรือไม่
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เคลื่อนไหวล่าสุดปร้บลงมา 0.45% ที่ 64.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท อยู่ที่ 58.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงมา 0.39%
