กลายเป็นประเด็นขึ้นมา หลังจากก่อนหน้านี้ดาราสาวชื่อดัง วุ้นเส้น วิริฒิพา ภักดีประสงค์ ได้ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ผ่านรายการตีสิบเดย์ ถึงเรื่องราวหลังหย่าขาดกับอดีตสามี ชาคริต แย้มนาม ที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน ว่าในตอนนั้นตนไม่มีบ้านอยู่ ต้องไปเช่าโรงแรมอยู่ถึง 2 ปี เพราะตนอยู่คอนโดมาตลอด พร้อมปฏิเสธข่าวเมาท์ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า สาเหตุที่ทำให้ชีวิตคู่จบลงเป็นเพราะว่าตนไม่อยากมีลูก กลัวหุ่นเสีย
ล่าสุด (19 ก.ย.) วุ้นเส้น วิริฒิพา ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวผ่านสื่อมวลชนอีกครั้ง โดยระบุว่า “ทุกวันนี้มีที่อยู่นะคะ คือวันนั้นที่พูดในรายการยังไม่มีบ้านใช่มั้ย จริงๆ คือซื้อไว้นานแล้ว แต่ช่วงนั้นมันคือเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว เหมือนเล่าให้ฟังว่าหลังจากที่เพิ่งจบไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงไหนแล้วมันจะสบายใจสุด แล้วเราก็เลยเลือกที่จะไปอยู่ตรงนั้น ซึ่งระหว่างนั้นเราก็หาซื้อคอนโด ใหม่ที่มันพอดีกับเราเท่านั้นเอง แล้วก็เพิ่งได้มาเมื่อประมาณปีที่แล้ว วุ้นเองก็ได้เข้าไปอยู่ประมาณ 6 เดือนแล้วค่ะ”
“คนตกใจว่าไม่มีที่อยู่ แค่พูดขำๆ ไม่มีอะไร คือพูดให้แบบไม่อยากให้คนรู้สึกว่าตอนนั้นเราอยู่โรงแรมแล้วมันดูเว่อร์หรืออะไร เพราะว่าจริงๆ มันเป็นที่ที่เราอยู่แล้วสบายใจ เราก็ได้ค่าเช่าที่สำหรับตัวเราแล้วมันโอเค วุ้นอยู่ตรงนั้นประมาณสองปี ถือว่านานเหมือนกัน แต่ว่าจริงๆ ก็ไม่ได้กะจะอยู่นานขนาดนั้น ตอนแรกตั้งใจอยู่ประมาณสามเดือน แล้วก็คิดว่าจะหาที่อยู่ใหม่ได้ หรือว่าอาจจะกลับไปที่บ้านหรือว่าคอนโดที่เรามีอยู่แล้ว แต่ว่าความสะดวกสบายและความสบายใจตอนนั้นมากกว่าที่เราคิดว่าอยู่ตรงนั้นแล้วดี”
“ไม่ได้ตกระกำลำบาก แค่แกล้งๆ พูด ชีวิตก็สบายดี ชีวิตดี อย่างที่พูดไปในรายการว่าทุกคนชอบจับตามองว่า ทำไมไปอยู่ตรงนั้นนานจัง ทำไมยังไม่เจอบ้าน คือการซื้อคอนโด หรือซื้อบ้านที่เราอยู่แล้วสบายใจจริงๆ มันต้องลงทุนเยอะ เพราะฉะนั้นถ้าเราหาแล้วผ่านๆ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ มันก็เสียดายเงิน ถ้าวันหนึ่งเรารู้สึกว่ามันไม่ได้ดีพอ แต่ว่าถ้าของดีก็ต้องรอนานหน่อย ตอนนีคอนโด ที่วุ้นได้ตอนนี้คือมันถูกสเปคเรามากๆ เหมือนหาผู้ชายล่ะค่ะ (หัวเราะ) ทุกอย่างมันต้องคัด ใช้เวลา แล้วก็ดูว่ามันถูกต้องขนาดไหน ซึ่งคอนโด นี้ได้มาประมาณปีที่แล้ว แล้วก็อยู่แล้วสบายใจมากกว่าที่เก่า”
“ถามคุณพ่อคุณแม่ได้ชวนกลับไปอยู่บ้านในช่วงที่เราไปเช่าโรงแรมอยู่ไหม เราก็เจอคุณพ่อคุณแม่เรื่อยๆ อยู่แล้ว แค่ว่าช่วงแรกๆ มันอาจจะมีความรู้สึกว่าเราอยู่คนเดียวดีกว่า ไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง ถ้าช่วงนั้นอาจจะมีเศร้าอะไรบ้างก็อยากให้คนรอบข้างสบายใจ เราก็เลยเลือกที่จะไปอยู่เงียบๆ คนเดียว”
“ไม่ได้มีความหลังอะไร กับคอนโดที่เรามีอยู่แล้วแต่ไม่ได้ไปอยู่ คือต้องอธิบายว่าตรงนั้นที่อยู่มันเคยอยู่ด้วยกัน แล้วเราก็เป็นฝ่ายที่แยกออกมา เขาก็ยังอยู่ที่เดิมของเขาตอนนั้น แต่เราก็ไม่ได้มาอธิบายรายละเอียดขนาดนั้นเพราะมันผ่านมานานแล้ว วุ้นเลยคิดว่าไม่น่าจะมีใครสนใจ คอนโดนั้นเป็นของเขา วุ้นไปอยู่ก็ตลกนะคะ (หัวเราะ) เราก็เลยเลือกที่จัดการชีวิตเอง”
“มีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า สาเหตุที่ทำให้ชีวิตคู่จบลงเป็นเพราะว่าเราไม่อยากมีลูก กลัวหุ่นเสีย จะบอกว่าวุ้นอยากมีลูกตั้งแต่อายุ 30 แล้ว แต่ว่าเราไม่อยากมาพูดอะไรมากเพราะว่ามันเป็นข่าวทีก็จะไปโยงกันไปมา เลยคิดว่านิ่งๆ ไปดีกว่า ให้คนเขาเดากันไปเองดีกว่าว่าเพราะอะไร จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเดาถูกหรือรู้ว่าตอนนั้นมันเป็นเพราะอะไร แต่ว่าตอนนี้ทุกคนมีชีวิตของตัวเองในแบบที่ดีสำหรับแต่ละคนแล้ว เพราะฉะนั้นอย่างเรื่องมีลูกวุ้นก็อยากมี แต่ว่ามันติดปัญหาทางบางอย่างจริงๆ ซึ่งไม่ได้เป็นฝ่ายวุ้น แล้ววุ้นก็ไม่รู้ว่าจะแก้ยังไง”
“ได้ยินข่าวเมาท์เรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงานกับคนคนหนึ่งก็อยากจะทุ่มเททุกอย่างใช่มั้ย จริงๆ ไม่อยากจะพูดแล้ว แต่ก็อยากให้คนเข้าใจใหม่ เพราะว่าคนเข้าใจผิดไปเยอะ วุ้นไม่กลัวเลยเพราะผอมเร็วมาก ไม่ได้กลัวเรื่องจะหุ่นเสียแล้วจะอะไร คนคนหนึ่งเกิดมาก็อยากมีลูกมีครอบครัวอยากเป็นแม่ของลูกหรืออะไรอยู่แล้ว แต่แค่ว่าถ้าเวลานั้นมันไม่ได้เหมาะสม แล้วรู้ว่าถ้ามีไปจะมีปัญหา เราก็ตัดปัญหาดีกว่า แต่ไม่ใช่ว่าไม่พยายามนะคะในตอนนั้น ทุกอย่างก็พยายามแก้ปัญหากันไป แต่ถ้าสุดท้ายมันไม่ได้ก็ต้องเข้าใจว่ามันกำหนดมาแบบ
“ถ้ามีโอกาสได้แต่งงานใหม่ ก็พร้อมมีลูกเลย จริงๆ พร้อมนานแล้ว ไม่ได้ติดอะไรเลย มันเป็นปัญหาที่แบบไม่รู้จะพูดยังไง เพียงแค่เวลานี้จะบอกว่าอย่าไปเดาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย เพราะว่ามันไม่ใช่จริงๆ มันก็เสียเซลฟ์นิดนึงหาว่าเราไม่อยากมีลูกเพราะกลัวหุ่นเสีย มันไม่มีใครในโลกนี้คิดแบบนี้หรอก เขาลดความอ้วนกันเป็นน่ะ แม่หรือใครก็ตามที่เคยอ้วนก็ผอมได้ วุ้นเข้าใจโลกนี้ดี แต่ไม่รู้ว่าจะออกมาเถียงเพื่ออะไร”
