ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (19 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวสูงขึ้น ภายใต้การนำของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะไมโครซอฟท์ ทั้งตลาดยังคงมีความรู้สึกผ่อนคลายอยู่ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดดอกเบี้ยตามคาด และเปิดทางสำหรับการเข้าแทรกแซงด้านนโยบายการเงินในอนาคต
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุด ขยับขึ้นมา 67.76 จุด หรือ 0.25% มาอยู่ที่ 27,214.84 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับขึ้น 10.47 จุด หรือ 0.35% ที่ 3,017.20 จุด และดัชนีแนสแด็ก บวก 33.11จุด หรือ 0.40% ที่ 8,210.51 จุด
ราคาหุ้นไมโครซอฟท์ทะยานขึ้นมา 2.2% หลังจากที่บริษัทเปิดเผยแผนซื้อคืนหุ้นมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ หนุนให้ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ทะยานสูงขึ้น และดัชนีย่อยกลุ่มเทคโนโลยี ขยับขึ้นมา 0.8%
นักวิเคราะห์บอกด้วยว่า หลังจากที่เฟดลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25% เมื่อวานนี้ (18 ก.ย.) ตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ ทำให้ตลาดยังมีความเชื่อย่างต่อเนื่องว่า เฟดกำลังจะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
นอกจากนี้ การเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับรองลงมาของสหรัฐกับจีน ยังช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่า จะเกิดผลบางอย่างตามมาเมื่อหัวหน้าคณะเจรจาการค้าของ 2 ฝ่ายเริ่มต้นการพูดคุยในเดือนตุลาคมนี้ แม้จะยังไม่ได้บทสรุปในข้อตกลงก็ตาม
วันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ ยังเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แสดงให้เห็นว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีชาวอเมริกันยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย มาอยู่ที่ 208,000 ราย แต่ยังต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 213,000 ราย โดยค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 750 ราย สู่ระดับ 212,250 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐลดลง 5.9% สู่ระดับ 1.282 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 จากระดับ 1.362 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1
