Economics

‘ศักดิ์สยาม’ ตั้งเป้าลงนามสัญญา ‘รถไฟไทย-จีน’ 5 หมื่นล้าน เดือนพ.ย.

สัญญา ‘รถไฟไทย-จีน’ ฉบับที่ 2.3 ใกล้ได้ข้อสรุป “ศักดิ์สยาม” ตั้งเป้าลงนามให้ได้เดือน พ.ย. นี้ ขณะ “หลี่เค่อเฉียง” ร่วมประชุมอาเซียนซัมมิทในประเทศไทย

รถไฟ ไฮสปีด จีน

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า การเจรจาร่างสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน ฉบับที่ 2.3 งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและฝึกอบรมบุคลากร วงเงิน 50,600 ล้านบาท มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดยฝ่ายไทยและฝ่ายจีนสามารถแก้ไขข้อติดขัดหลักๆ จำนวน 11-12 ประเด็นได้ทั้งหมดแล้ว

ขั้นตอนต่อไป ฝ่ายจีนจะนำข้อสรุปไปหารือกับผู้ใหญ่ในฝ่ายจีน ส่วนฝ่ายไทยก็ต้องนำข้อสรุปไปหารือกับอัยการสูงสุด ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายเห็นด้วยกับข้อสรุปดังกล่าว ก็ต้องนำร่างสัญญามาตรวจสอบรายละเอียดและถ้อยคำร่วมกันอีกครั้ง จากนั้นฝ่ายไทยต้องเสนอร่างสัญญาให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบและลงนามสัญญาต่อไป

โดยเบื้องต้นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายไทย ตั้งเป้าหมายจะลงนามสัญญาฉบับที่ 2.3 ขณะนายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน (ASEAN Summit) ในเดือนพฤศจิกายน 2562

“ตอนนี้ร่างสัญญาฉบับที่ 2.3 มีความพร้อมค่อนข้างมาก เหลือเวลาอีก 1 เดือนเศษๆ น่าจะทันเป้าหมายที่จะลงนามสัญญาในเดือนพฤศจิกายน 2562”

สถานี ไฮสปีด รถไฟความเร็วสูง
สถานีรถไฟความเร็วสูงในประเทศจีน

รายงานข่าวเปิดเผยต่อว่า โครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน สัญญาฉบับที่ 2.3 จะมีอายุสัญญาประมาณ 3-4 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการเปิดให้บริการในปี 2566 โดยเบื้องการดำเนินงานเป็น 3 ส่วนตามการส่งหนังสือให้เริ่มงาน (Notice to Proceed: NTP) ได้แก่

  • NTP ฉบับที่ 1 งานออกแบบระบบและขบวนรถ
  • NTP ฉบับที่ 2 งานก่อสร้างและติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ รวมถึงผลิตขบวนรถ
  • NTP ฉบับที่ 3 งานฝึกอบรม

ทั้งนี้ ฝ่ายจีนจะต้องทำงานใน NTP ฉบับที่ 1 ให้แล้วเสร็จก่อน ฝ่ายไทยจึงเริ่มออก NTP ฉบับที่ 2 ส่วน NTP ฉบับที่ 3 จะต้องรอให้ NTP ฉบับที่ 2 เสร็จก่อนหรืออาจจะดำเนินการคู่ขนานกันก็ได้

Avatar photo