สหรัฐเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียม พร้อมอ้างข้อมูลข่าวกรองสนับสนุนข้อกล่าวหาของรัฐบาลวอชิงตัน ที่ระบุว่า อิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย
อิหร่านปฏิเสธความเกี่ยวข้องในเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของบริษัทซาอุดี อารามโค รัฐวิสาหกิจน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (14 ก.ย.) ที่กลุ่มกบฎฮูตี ในเยเมน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับอิหร่าน ออกมาอ้างความรับผิดชอบ
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐ ระบุว่า ทิศทาง และขอบเขตของการโจมตี ทำให้เกิดข้อกังวลว่าเป็นฝีมือของกลุ่มกบฏฮูตีหรือไม่
หลังเกิดเหตุ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้ออกมาประณามอิหร่านในเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้แสดงหลักฐานประกอบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ทำให้รัฐบาลเตห์ราน ออกมาโจมตีสหรัฐว่าเป็นพวกเสแสร้ง
ต่อมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) ไม่ได้มีการกล่าวหาอิหร่านโดยตรง แต่กล่าวเป็นนัยถึงความเป็นไปได้ที่จะลงมือปฏิบัติการทางทหาร ในทันทีที่รู้ว่าเป็นฝีมือของฝ่ายใด
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐจำนวนหนึ่ง เปิดเผยต่อสื่ออเมริกันหลายรายว่า มีอยู่ 19 จุดที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตี ซึ่งการโจมตีนี้ มาจากทางทิศตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่ใช่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ของที่ตั้งโรงกลั่นน้ำมันซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นทิศทางของพื้นที่ที่กลุ่มกบฏฮูตียึดครองอยู่ในเยเมน
เจ้าหน้าที่สหรัฐบอกด้วยว่า เมื่อพิจารณาจากเรื่องดังกล่าวแล้ว คาดการณ์ได้ว่า จุดปล่อยโดรนโจมตีนั้น น่าจะอยู่ทางตอนเหนือของอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งก็คือ อิหร่าน หรืออิรัก
เมื่อตรวจสอบภาพถังเก็บน้ำมันในเมืองแอบเกก ที่ได้รับความเสียหายอย่างละเอียดแล้ว ยังพบว่า จุดที่เสียหายจากการโจมตีอยู่ทางฝั่งตะวันตก
ขณะที่แหล่งข่าวของนิวยอร์ก ไทมส์ บอกว่า การโจมตีที่เกิดขึ้นอาจเป็นการใช้โดรน และขีปนาวุธผสมกัน แต่ก็ไม่ได้โดนเป้าหมายทั้งหมด
