ตลาดชุดชั้นในมูลค่านับหมื่นล้านบาทในยุคนี้มีเซ็กเม้นต์แยกย่อย ตามความต้องการที่แตกต่างของสรีระสาวๆ ไม่เพียงแต่คัพของบราที่ต้องหลากหลาย แต่ยังต้องตอบโจทย์ความสวยงาม ตามเทรนด์แฟชั่น
ในยุคนี้ต้องยอมรับว่า ตลาดชุดชั้นในสำหรับ สาวอกใหญ่ตั้งแต่คัพ D ขึ้นไป เป็นหนึ่งในเซ็กเม้นต์ที่มีความต้องการมากขึ้น ส่งผลให้แบรนด์ต่างๆ พัฒนาสินค้ามาเจาะกลุ่มสาวคัพใหญ่มากขึ้น
ศิริวรรณ วิลาสศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในเครือสหพัฒน์ ผู้จัดจำหน่ายชุดชั้นใน “เวียนนา” กล่าวว่า วีนฯ เป็นผู้ประกอบการชุดชั้นในแบรนด์ไทยแท้ ทำตลาดมากว่า 30 ปี เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสรีระและชุดชั้นใน พบว่าหนึ่งเซ็กเม้นต์ที่เห็นแนวโน้มขยายตตัวในช่วงที่ผ่านมา คือ ชุดชั้นในสำหรับสาวอกใหญ่ตั้งแต่คัพ D ขึ้นไป
“แนวโน้มชุดชั้นในสำหรับสาวคัพใหญ่ มีทั้งจากสรีระธรรมชาติ แต่ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมาจากการทำศัลยกรรมหน้าอกเพิ่มคัพของสาวไทย ที่มีให้เห็นมากขึ้น ทำให้มีความต้องการบราคัพใหญ่ขึ้น”
สอดคล้องกับข้อมูลตลาดศัลยกรรมในประเทศไทยในปีที่ผ่านมา มูลค่าอยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท เติบโตต่อเนื่องปีละ 20% โดยไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งการศัลยกรรมเพิ่มขนาด“หน้าอก” ติดท็อปไฟว์ การตัดสินใจทำศัลยกรรมของคนไทย
ชูบริการ tailor-made รับสาวคัพใหญ่
ศิริวรรณ กล่าวว่าปีที่ผ่านมา เวียนนา ได้เปิดบริการ “Custom Made Service” ที่สยามพารากอน เพื่อให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสรีระและรับสั่งตัดชุดชั้นใน และเพิ่มเติมบริการ Custom Made Bra ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ Full Moon Bra โดยเริ่มจากคัพ D ขึ้นไป ด้วยบริการสั่งตัดบราในสไตล์ที่ชอบ สามารถสร้างสรรค์ เลือกสี เลือกลูกไม้ หรือสายบ่า ตกแต่งได้ตามความต้องการ สำหรับสาวคัพใหญ่ ที่มีชุดชั้นในสำเร็จรูปให้เลือกจำกัด และหาซื้อได้ยาก โดยมีคุณแม่ลูกสอง “กระแต ศุภักษร ไชยมงคล” เป็นทั้งผู้ใช้จริงและพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์
จากแนวโน้มความต้องการชุดชั้นในคัพใหญ่ของสาวๆ เพิ่มขึ้น ปีนี้แบรนด์ Full Moon Bra by Wienna ขยายการบริการสั่งตัดชุดชั้นใน (tailor-made) ครอบคลุมทุกสาขา ในกรุงเทพฯ และปริมณทล ได้แก่ สำนักงานใหญ่ พระราม 3 , เดอะมอลล์ บางกะปิ , เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ , ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต , แฟชั่นไอซ์แลนด์ , สมุทรปราการ สยามพารากอน และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน โดยให้บริการตั้งแต่ให้คำปรึกษาเพื่อผู้ผ่าตัดเต้านมและผู้มีคัพไซส์ใหญ่พิเศษ รวมถึงการให้คำปรึกษาด้านต่างๆ เกี่ยวกับสรีระและชุดชั้นใน
นอกจากบริการสั่งตัดบราสำหรับสาวคัพใหญ่แล้ว เวียนนายังให้บริกาสั่งตัดบราสำหรับผู้ผ่าตัดเต้านม เพื่อสร้างความมั่นใจในการสวมใส่บรา ปีก่อนสัดส่วนผู้ใช้บริการสั่งตัดบราไม่ถึง 5% ปีนี้คาดว่าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 10%
“ภาพลักษณ์ของเวียนนา คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านสรีระและชุดชั้นใน การให้คำปรึกษาแบบเชิงลึก (Personalization) ที่เป็นจุดแข็งสำคัญของเวียนนา ทำให้เข้าไปนั่งอยู่ในใจลูกค้ามาถึง 3 ทศวรรษ โดยมีลูกค้าตั้งแต่อายุ 20-70ปี”
“เวียนนา”ก้าวสู่ยุค 4.0
ในครึ่งปีหลัง เวียนนายังจะเดินหน้าแคมเปญ Drop Ship เพื่อเปิดโอกาสให้บัณฑิตจบใหม่ หรือเอสเอ็มอีรายย่อยได้มีรายได้ เน้นแนวคิด “ไม่มีเงินทุน ก็รวยได้” หวังขยายฐานสู่เจนเนเรชั่น Y และ Z เพียงมี เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็สามารถทำธุรกิจร่วมกับเวียนนาได้
โดยการโพสต์รูปสินค้าของ “เวียนนา” และข้อมูลสั้นๆ ในช่องทางของตัวเอง เมื่อมีออเดอร์ก็สามารถมาสั่งซื้อสินค้ากับเวียนนาได้ รูปแบบนี้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ และคนที่สนใจช่องทางขายบนออนไลน์
“ขั้นตอน Drop Ship เป็นการทำธุรกิจที่ใครๆ ก็ทำได้ ไม่ต้องลงทุนซื้อสินค้ามากักตุน ตามคอนเซ็ปต์ที่เวียนนาวางไว้ คือ ยิ่งโพสต์ยิ่งได้ ยิ่งโพสต์ยิ่งรวย ลดอัตราเสี่ยงการทำธุรกิจอีกด้วย”
หลังจากทดลองเปิดตัว Drop Ship ช่วงปลายปีที่ผ่านมา มีเครือข่ายนักศึกษาเป็นเครือข่าย Drop Ship จำนวน 20-30 คน ช่วงครึ่งปีหลังจะทำแคมเปญต่อเนื่อง วางเป้าหมายเพิ่มเครือข่ายเป็น 100 คน
ที่ผ่านมา เวียนนา มีช่องทางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ของตัวเองและมาร์เก็ตเพลสต่าง ๆ เช่น ลาซาด้า จากการเดินหน้าแคมเปญ Drop Ship ในปีนี้ รวมทั้งช่องทางอื่นๆ มีลูกค้าใช้บริการมากขึ้น คาดสัดส่วนรายได้ออนไลน์สิ้นปีนี้จะขยับมามีสัดส่วน 10% จากเดิมที่มีสัดส่วน 1-2% โดยวางเป้าหมาย 2-3 ปีจากนี้ช่องทางออนไลน์จะมีสัดส่วนรายได้ 20-30%
วางเป้าหมายรายได้ปีนี้โต 5-10%
ปัจจุบัน บริษัทวีนฯ ทำการตลาดผ่านระบบสมาชิก มี 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มธุรกิจชุดชั้นใน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในเวียนนา , ฟูลมูนบรา , เลอวีด้า พรีเว่ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามภายใต้แบรนด์ เบสซีเล็คชั่น (Best Selection)
กลุ่มธุรกิจจักรเย็บผ้าและงานฝีมือ ประกอบด้วย จักรเย็บผ้าจาโนเม่และจักรเย็บผ้าเอลน่ารวมกลุ่มสินค้าทั้งหมดมากกว่า 500รายการ มีฐานลูกค้าสมาชิกกว่า 5 แสนราย แบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่กลุ่มสมาชิกผู้ใช้สินค้า (Privileged Member) และกลุ่มสมาชิกธุรกิจ (Business Member) และปีนี้เริ่มขยายฐานไปลูกค้าทั่วไปมากขึ้น โดยเริ่มจำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้าเคาน์เตอร์ภายในดีพาร์ทเม้นสโตร์ สยามพารากอน โรบินสัน และ เดอะมอลล์ เพิ่มเติมด้วย คาดว่าปีนี้จะเติบโตได้ 5-10 %