นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (13 ก.ย.) ได้พิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา ตรวจสอบการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) และการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ตามที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ และคณะ เป็นผู้เสนอ
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่ดี มุ่งพัฒนาให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตทุกมิติ แต่เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ใช้เงินลงทุนสูงถึงสองแสนล้านบาท อาจส่งผลกระทบต่อหน่วยงานราชการและประชาชนจำนวนมาก สร้างความกังวลในประเด็นต่างๆ อาทิ ผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ตลาดโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ผลประโยชน์ของรัฐที่ลงทุน ภาครัฐและประชาชนได้ผลตอบแทนอย่างไร รวมถึงจะคุ้มค่ากับเงินงบประมาณของประเทศหรือไม่
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะได้รับความเสียหายอย่างไร ในด้านการซ่อมบำรุงและที่ดินที่เป็นของโรงงานมักกะสัน อีกทั้งประชาชนยังมีความกังวลต่อโครงการเชิงพาณิชย์ที่อยู่ในโครงการจำนวนพื้นที่ 850 ไร่ ที่การรถไฟฯ ต้องส่งมอบให้แก่เอกชน
ดังนั้นจึงเห็นสมควรให้ตั้ง กมธ.วิสามัญฯ เพื่อศึกษาตรวจสอบ ความคุ้มค่าดังกล่าวว่าเหมาะสมหรือไม่ พร้อมเห็นว่ารัฐบาลควรชะลอการลงนามในสัญญาโครงการฯ ไว้ก่อน และเปิดเผยรายละเอียดของสัญญาโครงการฯ ให้ประชาชนได้รับทราบ
นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาตรวจสอบการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และการกำหนดพื้นที่ระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ว่ารัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องทบทวนโครงการดังกล่าว รวมถึงต้องทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะให้อำนาจกรรมการมากเกินไป หวั่นว่าโครงการจะไม่เป็นที่ยอมรับ
ภายหลังสมาชิกอภิปรายแสดงความเห็น ที่ประชุมได้ลงมติไม่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา ตรวจสอบการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) และการกำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ด้วยคะแนน 223 ต่อ 231 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง จากผู้เข้าร่วมประชุม 456 คน
