Economics

รัฐเร่งเตรียมงานรับพัฒนาประเทศ-สังคมสูงวัย

นายกรัฐมนตรีเผย รัฐบาลเร่งเตรียมแรงงานรองรับการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ และการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในอีก 5 ปีข้างหน้า

prime

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนา อย่างยั่งยืน” ว่า รัฐบาลได้คิดถึงเรื่องแรงงานของประเทศ มีการพิจารณาล่วงหน้า และเตรียมการสำหรับอนาคต อีกหลายประการ อาทิ การเตรียมคนวัยแรงงานให้มีความพร้อม รองรับการพัฒนาประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติ และ การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ในอีก 5 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ยังจะมีการจัดการศึกษาแบบ “ทวิภาคี” เพื่อให้นักเรียนอาชีวะ ได้ฝึกการปฏิบัติวิชาชีพจริง ณ สถานประกอบการ ในช่วงเวลาที่จะต้องศึกษาในอาชีวะต่าง ๆ  จะมีการขึ้นบัญชีนวัตกรรม บัญชีนักเรียนนักศึกษา ที่ผ่านเวที หรือชนะการประกวด ในระดับต่าง ๆ เพื่อกำหนดให้มีแนวทางในการส่งเสริมนวัตกรรมไปสู่การผลิต แล้วนำคนเหล่านี้ มาใช้ประโยชน์ในการวิจัยและและพัฒนาหรือเป็นข้าราชการ หรือไปอยู่ในบริษัท ห้างร้านใหญ่ ๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการสร้างนักประดิษฐ์ของประเทศในอนาคต แล้วพลิกจากประเทศนำเข้านวัตกรรมไปสู่ประเทศส่งออกนวัตกรรม บ้าง ซึ่งาจจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม จากความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างมาก

อีกเรื่องหนึ่ง คือ การจัดทำประมาณการความต้องการแรงงานของประเทศ ในอนาคต เพื่อจะป้อนภาคการผลิตของประเทศ โดยเฉพาะ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ในพื้นที่ 3 จังหวัดอีอีซี เช่น ช่างซ่อมอากาศยาน วิศวกรรมซ่อมแซม และควบคุมการเดินรถไฟฟ้า เป็นต้น

การกำหนดมาตรฐานแรงงานไทย และการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อสามารถขอรับอัตราค่าแรง ที่สูงกว่าปกติ ตามขีดความสามารถที่แท้จริง เพื่อสนับสนุนให้มีการพัฒนาตนเองของแรงงานไทย เราอยู่ที่เดิมไม่ได้หรอกครับ รายได้จะไม่เพิ่ม

การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว เพื่อเป็นการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวในการจ้างงาน ณ สถานประกอบการต่าง ๆ ให้ได้รับการดูแล และคุ้มครองสิทธิพื้นฐานตามหลักการสากล เช่น สวัสดิการด้านสุขภาพ

สุดท้ายคือ การฝึกฝีมือแรงงาน สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11 ล้านคน รวมทั้ง ผู้สูงอายุ คนพิการ ขอทาน คนเร่ร่อน อีกด้วย ในช่วงปิดเทอม ก็มีงานให้เยาวชนของเราได้มีรายได้ในช่วงปิดเทอม ที่ผ่านมา

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุด้วยว่า แรงงานของประเทศล้วนแต่มีความสำคัญกับเศรษฐกิจของไทย ในระดับฐานรากของประเทศ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และ สตาร์ทอัพ ที่มีความเชื่อมโยงกับสถานประกอบการ โรงงานขนาดใหญ่ของประเทศ ในลักษณะห่วงโซ่คุณค่า ของระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ ก็จะต้องได้รับการส่งเสริมให้มีการพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบ และมีแบบแผนด้วย ก็ขอความร่วมมือด้วย ทำให้ถูกกฎหมาย ขึ้นทะเบียน จดทะเบียน จะได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนต่าง ๆ

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight