ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวสูงขึ้นช่วงเช้าวันนี้ (13 ก.ย.) จากสัญญาณถึงความก้าวหน้าในความขัดแย้งระหว่างจีน กับสหรัฐ และการออกมาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดปรับขึ้น 206.84 จุด หรือ 0.95% ที่ 21,966.45 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 70.74จุด หรือ 0.26% ที่ 27,158.37 จุด ดัชนีคอมโพสิต เซี่ยงไฮ้ บวก 22.42 จุด หรือ0.75% ที่ 3,031.24 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ปรับขึ้นมา 6.06 หรือ 0.19% ที่ 3,201.02 จุด
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) ปิดที่ 27,182.45 จุด เพิ่มขึ้น 45.41 จุด หรือ 0.17% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,009.57 จุด เพิ่มขึ้น 8.64 จุด หรือ 0.29% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 8,194.47 จุด เพิ่มขึ้น 24.79 จุด หรือ 0.30%
ความรู้สึกของนักลงทุนยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศว่า รัฐบาลจะเปิดเผยแผนยกเครื่องภาษี ที่มีเป้าหมายอยู่ที่ชนชั้นกลางในปีหน้า
ส่วนราคาน้ำมันดิบในตลาดเอเชียวันนี้ ปรับลดลงเล็กน้อย หลังการหารือระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กับชาติพันธมิตร ไม่ได้มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการลดเพดานผลิตน้ำมันออกมา
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับลงมา 0.2% ที่ 60.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียท ลดลง 0.2% ที่ 54.96 ดอลลลาร์ต่อบาร์เรล
