คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวว่า ในฐานะที่ตนกำกับดูแล วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยการประมง ทั้ง 47 แห่ง เป็นกำลังสำคัญในการผลิตบุคคลที่จะออกไปทำงานด้านการเกษตร ผู้ประกอบการเกษตร จากการหารือกับผู้บริหารวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยการประมง 47 แห่งใน 4 ภูมิภาค เห็นว่าควรให้ความสำคัญในการผลิตอาหารปลอดภัยให้กับชุมชน เพื่อให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศชั้นนำของโลกในการผลิตอาหารสุขภาพ
คุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า การผลิตอาหารของเกษตรกรในปัจจุบัน ปรากฏว่าพบสารเคมีอันตราย คือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ที่ผสมอยู่ในยาฆ่าแมลง หรือยากำจัดศัตรูพืช ที่ในหลายพื้นที่ใช้กันอยู่ ทั้งนี้ตนจึงได้ประกาศเป็นนโยบายให้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยการประมง ทั้ง 47 แห่ง เป็นต้นแบบในการเลิกใช้สารเคมีอันตรายทั้ง 3 ชนิดคือ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอส ที่ผสมอยู่ในยาฆ่าแมลง หรือยากำจัดศัตรูพืช อย่างสิ้นเชิง
ทั้งในส่วนของการผลิตพืชผล ใช้กับสนามหญ้า หรือ สวนหย่อมของวิทยาลัย ก็จะไม่ใช่สารเคมีเพราะจะทำให้สารเคมีที่ใช้ตกค้างในดินและไหลลงในแหล่งน้ำ สร้างเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านการเกษตรที่ให้ความสำคัญสูงสุดต่อผู้บริโภคด้วยการผลิตอาหารปลอดภัย และอาหารเพื่อสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นการสร้างบุคลากรต้นแบบที่มีมาตรฐานในการทำงานต่อไปในอนาคตด้วย เนื่องจากประเทศไทยซึ่งเป็น 1 ใน 6 ประเทศที่ผลิตอาหารเลี้ยงชาวโลก
“จะเริ่มนำร่องที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี และวิทยาลัยการประมง “ปลอด 3 สารเคมีอันตราย” ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นแห่งแรก เพื่อผลิตอาหารปลอดสารพิษให้กับชุมชน และผลิตวัตถุดิบให้กับโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อให้โรงเรียนได้วัตถุดิบที่ปลอดสารพิษ และได้สารอาหารครบ 5 หมู่ ให้วิทยาลัยเกษตรฯ เป็นพี่เลี้ยงให้กับโรงเรียนต่างๆในการทำเกษตรเพื่อนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ