ดร.ภากร ปีตธวัชชัย ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย กล่าวในงาน “นักวิเคราะห์ นักลงทุน พบกลุ่มสหพัฒน์ ครั้งที่ 10” ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ว่า กลุ่มสหพัฒน์เป็นธุรกิจใหญ่ ที่มีบริษัทในกลุ่มที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ถึง 17 บริษัท มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง โดยไตรมาสแรกปีนี้ ภาพรวมธุรกิจขยายตัว 8% สะท้อนความเติบโตของเศรษฐกิจ และวิสัยทัศน์ของผู้บริหารกลุ่มสหพัฒน์
ล่าสุดร่วมมือกับกลุ่ม บีทีเอส ในการจัดทำข้อมูล บิ๊กดาต้า เพื่อเกาะติดพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นเครื่องมือใหม่ ที่ทำให้เข้าใจตลาด และพัฒนาสินค้าและบริการได้ตรงตามความต้องการมากขึ้น
นายวิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สินค้าของกลุ่มสหพัฒน์มีหลากหลาย เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของผู้บริโภค หากมองที่มาร์เก็ตแคปกลุ่มสพัฒน์และพาร์ทเนอร์รวมกันมีมูลค่าถึง 10 ล้านล้านบาท เท่ากับจีดีพีของประเทศ มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจประเทศ
ที่ผ่านมาการเติบโตของกลุ่มสหพัฒน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้วยตัวเลข 2 หลัก และมีกำไรต่อเนื่อง โดยปี 2560 มีกำไร 3,000 ล้านบาท ทางกลุ่มยังคงมองโอกาสการเติบโต และขยายการลงทุนต่อเนื่อง
นางผาสุข รักษาวงศ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความพร้อมด้านซัพพลายเชนว่า เป็นสิ่งสำคัญที่สหพัฒน์มุ่งพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยการพยายามบริหารให้ต้นทุนต่ำลง และจัดส่งสินค้าจากโรงงานสู่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ตามความต้องการของลูกค้าและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการพัฒนาให้รวดเร็วตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น มีการเพิ่มคลังสินค้า เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง โดยปัจจุบันมีคลังสินค้ากระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ประมาณ 70 แห่ง พร้อมรองรับการกระจายสินค้าได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ใช้บิ๊กดาต้าเจาะฐานข้อมูลการตลาด
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การนำเรื่องของบิ๊กดาต้า มาใช้สามารถช่วยด้านข้อมูลทางการตลาดได้มาก ไอ.ซี.ซี.เริ่มนำเอาบิ๊กดาต้ามาใช้มากขึ้น โดยกำลังเร่งศึกษาและเตรียมความพร้อมบุคลากรรองรับการนำ บิ๊กดาต้า มาใช้งานด้านการตลาด เพื้อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นการเรียนรู้
ส่วนการปรับตัวรับยุคดิจิทัล บริษัทมีการขายสินค้าออนไลน์ ยังมีสัดส่วนไม่มากนักประมาณ 2-3% จากยอดขายรวม และยังได้ร่วมกับเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ ลาซาด้า นำสินค้าในกลุ่มสหพัฒน์เข้าไปจำหน่ายมียอดขายที่เติบโตขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในวาโก้ ยอดขายผ่านลาซาด้าเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว
ดร.พจน์ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการผลิตของบริษัทว่า ที่ผ่านมาเริ่มใช้หุ่นยนต์เข้ามาช่วยในไลน์การผลิตมากขึ้น โดยเป็นหุ่นยนต์แบบลิเนียเคลื่อนที่แนวเดียว และต่อไปจะพัฒนาใช้แขนกลเข้ามาช่วยในการผลิต ซึ่งจะช่วยลดการใช้แรงงานคน 6-8 คน จากไลน์ปกติที่ใช้แรงงานประมาณ 20 คน ส่วนการผลิตเดินเต็มกำลังการผลิตในปัจจุบัน ภาพรวมการผลิตมาม่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตลาดยังเติบโตได้
ดร.พจน์ กล่าวว่าเทคโนโลยีทำให้เห็นโอกาส เชื่อมโยงตลาดโลก ดิจิทัลเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นเหมือนดาบสองคม ใช้ให้เป็นประโยชน์ และหากใช้ผิดก็อาจสร้างความเสียหายได้ แต่สำหรับไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ยึดการบริหารในสายกลาง เรียนรู้ลูกค้าให้ลึกซึ้งและผลิตสินค้าให้ตรงความต้องการตลาด
“ฟาร์มเฮ้าส์” ครองส่วนแบ่งตลาด 40%
นายอภิเศรษฐ ธรรมโนมัย กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การผลิตขนมปังฟาร์มเฮ้าส์ ที่ผ่านมาเปิดโรงงานบางชันเพิ่มการผลิตอีก 20% รองรับตลาดที่ขยายตัว และวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง สินค้าเบเกอรี่ของบริษัทเน้นทั้งสุขภาพและความอร่อยในรสชาติที่คนไทยชอบ ปัจจุบันขนมปังฟาร์มเฮ้าส์มีส่นแบ่งตลาด 40% ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดเติบโตสูงมากยอดขายโต 2-3%
นายวิโรจน์ ธีรวัฒน์วาที กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหโคเจน(ชลบุรี) จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกมากว่า 10 ปี มีโรงไฟฟ้าชีวะมวล 2 โครงการที่จังหวัดลำพูน และกำแพงเพขร ยังเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์
ล่าสุดได้เจรจาร่วมทุนใหม่ คาดว่าจะสรุปได้ไตรมาส 3 ปีนี้ ปัจจุบันโรงไฟฟ้าของบริษัทมีกำลังกรผลิตรวม 220 เมกะวัตต์ ใช้กับโรงงานของกลุ่มสหพัฒน์ และขายสู่ภายนอก 50/50 ของกำลังการผลิต
นายบุญดี อำนวยสกุล ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันวาโก้มีสินค้าชุดชั้นในรองรับตลาดในทุกกลุ่มวัย จำแนกตามกลุ่มอายุเช่นกลุ่ม Mood สำหรับตลาดผู้หญิงวัยเริ่มทำงานอายุ 22-30 ปี กลุ่มวาโก้ โกลด์ สำหรับผู้สูงวัย ซึ่งเป็นฐานตลาดใหญ่อีกกลุ่มที่เติบโตดีมาก โดย 5 เดือนที่ผ่านมา สินค้าวาโก้ โกลด์ เติบโตมากถึง 46% หากมองในภาพรวมวาโก้ มีส่วนแบ่งตลาดชุดชั้นใน 50% เติบโตปีละ 5%