การคมนาคมญี่ปุ่นตกอยู่ในภาวะวุ่นวายช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ย.) หลังพายุไต้ฝุ่นฟ้าใส ที่พัดเข้ากรุงโตเกียวเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) ทำให้บริการรถไฟต้องล่าช้า และเที่ยวบินยกเลิกมากกว่า 100 เที่ยวบิน
พายุไต้ฝุ่นฟ้าใส ซึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็วลมสูงสุด 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตัดผ่านอ่าวโตเกียว พัดขึ้นฝั่งที่จังหวัดชิบะ ทางตะวันออกของกรุงโตเกียว
กรมอุุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น เตือนก่อนหน้านี้ ถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดกระแสลมแรงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งยังคงออกคำสั่งอพยพแบบไม่บังคับสำหรับประชาชนเกือบ 340,000 คน ไว้จนถึง เวลา 8.00 น วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น
ทางการเปิดเผยด้วยว่า มีประชาชนมากกว่า 2,000 คน ได้เข้าพักในที่หลบภัยชั่วคราวแห่งต่างๆ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากพายุมากกว่า 30 ทั้งเจ้าหน้าที่ยังสามารถช่วยหนักเล่นเซิร์ฟ 8 คน ที่ถูกคลื่นพัดออกไปนอกฝั่งในเมืองชิซูโอกะเอาไว้ได้ อย่างปลอดภัย
กระแสลมแรงจากพายุยังทำให้ต้นไม้ และเสาไฟฟ้าหักโค่น จนทำให้ประชาชนเกือบล้านคนในกรุงโตเกียว ใต้องอยู่แบบไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงเช้าวันนี้
ที่เมืองชิซูโอกะ ยังมีรายงานบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 10 หลัง ขณะที่ภาพจากโทรทัศน์ ยังแสดงให้เห็นภาพหลังคาสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งในเมืองทาเทยามะ ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียวพังลงมาทับหัวจ่ายที่อยู่ด้านล่าง
แม้ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจะไม่ค่อยรุนแรงนัก เมื่อเทียบกับความเร็วลมของพายุ แต่ก็มากพอที่จะทำให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในการเดินทางขึ้นมาในช่วงเช้าวันนี้
อีสต์ เจแปน เรลเวย์ ระงับให้บริการรถไฟเกือบทุกสายในช่วงเช้า เพราะต้องดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของรางรถไฟ รวมถึง ตรวจสอบว่ามีต้นไม้หักโค่น หรือวัสดุอื่นๆ กีดขวางอยู่บนรางรถไฟหรือไม่
พายุยังทำให้บริการรถไฟใต้ดินล่าช้า หรือหยุดให้บริการในบางเส้นทาง ส่งผลให้ในบางสถานีมีผู้โดยสารแน่นขนัด ส่วนบริการรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็น ที่หยุดไปตั้งแต่ช่วงก่อนที่พายุจะขึ้นฝั่ง กลับมาให้บริการแล้วเกือบทั้งหมด
นอกจากนี้ สภาพอากาศที่ยังคงย่ำแย่ ยังทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินในท้องถิ่นไปอย่างน้อย 138 เที่ยวบิน
ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น เปิดเผยว่า พายุได้เคลื่อนตัวกลับลงไปในทะเลแล้ว มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างออกจากญี่ปุ่นกลับไปยังมหาสมุทรแปซิฟิค
