รัฐบาลติดเครื่องสร้างต้นแบบเมืองอัจฉริยะในพื้นที่อีอีซี หวังต่อยอดครบ 100 พื้นที่ทั่วประเทศ ด้าน ออริจิ้น จับมือภาครัฐ-เอกชนชั้นนำ ร่วมเนรมิต “ออริจิ้น สมาร์ทซิตี้ ระยอง” สร้างแลนด์มาร์คใหม่สู่ ไลฟ์สไตล์ฮับ มูลค่าโครงการรวมกว่าหมื่นล้านบาท
นายอินทรีย์ เกิดมณี ปลัดจังหวัดระยอง ในฐานะประธานพิธีเปิดโครงการ ออริจิ้น สมาร์ทซิตี้ ระยอง การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ สมาร์ท ซิตี้ ถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างจริงจัง เพื่อให้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเมืองอย่างชาญฉลาด กระจายความเจริญไปยังทุกภูมิภาค สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน
สำหรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ถือเป็นพื้นที่นำร่องในเฟสแรกที่รัฐบาลเดินหน้าสร้างต้นแบบ สมาร์ท ซิตี้ อย่างจริงจัง โดยมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมผลักดันให้เกิดขึ้นจริง อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ตลอดจนสำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย ซึ่งเพิ่งก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือของหลายหน่วยงาน
ทั้งนี้ ภาครัฐได้วางโรดแมปสมาร์ทซิตี้ ด้วยการมุ่งผลักดันให้เกิดสมาร์ทซิตี้ทั่วประเทศจำนวน 100 แห่ง ภายในปี 2565 โดยปีนี้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถยื่นขอให้โครงการเดิมและโครงการที่กำลังจะพัฒนา ได้รับตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะต้นแบบกับคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วย”นายอินทรีย์กล่าว
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นจะพัฒนาโครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง บนที่ดินกว่า 24 ไร่ บริเวณสี่แยกเนินสำลี ถ.สุขุมวิท จ.ระยอง ให้เป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบ เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของระยองว่าเป็นจังหวัดที่จะสามารถเติบโตถึงขั้นเป็นนิว ซีบีดี
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำหลายรายที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาช่วยเติมเต็มให้ทั้งโครงการกลายเป็นสมาร์ท ซิตี้ และสมาร์ทแพลทฟอร์มไปพร้อมกัน ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย คอตโต้ และคลาส คาเฟ่ เป็นต้น ในโครงการมิกซ์ยูส มูลค่าโครงการรวมกว่าหมื่นล้านบาทแห่งนี้ ให้สามารถทรานส์ฟอร์มการใช้ชีวิตสู่สังคมแห่งอนาคต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Beyond A Living Platform”
