Business

‘ศักดิ์สยาม’ เสนอแก้มติครม.เดิม ดึงอำนาจกลับ แก้ปม ‘ค่าโง่ทางด่วน’

“ศักดิ์สยามเสนอปรับมติ ครม.เดิม ดึงอำนาจแก้ปม ค่าโง่ทางด่วนกลับกระทรวงคมนาคม ตั้งคำถามทำไมต้องสร้าง ทางด่วน 2 ชั้นแล้วขยายสัญญาไปอีก 15 ปี

2MOT 2562 08 07 รวค.ประชุม งป.รัฐวิสาหกิจ by PP 19

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับ “The Bangkok Insight”  ถึงแนวทางการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ว่า ล่าสุดได้มอบหมายให้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาและจัดทำแนวทางการแก้ไขปัญหาค่าโง่ทางพิเศษ (ทางด่วน) ในระดับกระทรวง

เรื่องนี้ไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่หรือล้มกระดาน แต่เป็นการให้คณะทำงานไปพิจารณาตั้งแต่ผลการศึกษา การกำหนดเงื่อนไขการประมูล (TOR) สัญญา และการปฏิบัติตามสัญญาว่าเป็นอย่างไร

นอกจากนี้  มีประเด็นใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก เพราะมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยุคก่อนหน้านี้ ไม่ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเป็นผู้แก้ไขปัญหาและนำเรื่องเสนอ ครม. ทั้งที่การทางพิเศษฯ ก็เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในสังกัดกระทรวงคมนาคม

“ผมไม่มีอำนาจเพราะมติ ครม. ฉบับสุดท้าย กลับมอบให้การทางพิเศษฯ เป็นผู้เจรจาเรื่องดังกล่าว โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในยุคนั้นเป็นผู้กำกับดูแล ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีคมนาคมเลย เวลามีหนังสือก็ตรงไปที่ผู้ว่าการทางพิเศษฯ เลย ไม่ผ่านกระทรวงคมนาคม” นายศักดิ์สยาม กล่าว

ขณะนี้นายศักดิ์สยาม จึงกำลังเรียกเรื่องและสำเนามติ ครม. ฉบับดังกล่าว มาพิจารณาว่ามีรายละเอียดเป็นอย่างไร และคงต้องเสนอให้ที่ประชุม ครม. แก้ไขมติดังกล่าวต่อไป เพราะในหลักความเป็นจริงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ถามว่าใครเป็นคนเขียนมติครม.อย่างนี้ นายศักดิ์สยาม กล่าวว่าเลขาธิการครม.รัฐบาลที่แล้ว ถามว่าถ้าต้องนำเรื่องเข้าครม.ไม่ผ่านกระทรวงคมนาคมแล้วใครจะเอาเข้า

 เรื่องนี้ผมบอกเลยมั่วมาก เราไม่มีอำนาจ ครม. ไม่ให้อำนาจเลย เราต้องไปทบมติ ครม. เดิมก่อน

ทางด่วน ภาพจากคมนาคม3
ภาพจากเฟซบุ๊ก ข่าวและภาพกิจกรรมกระทรวงคมนาคม

สำหรับผลการศึกษาของกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า (บีทีเอส) เรื่องการขยายสัมปทานทางด่วน 3 ฉบับ เพื่อแลกกับการยุติข้อพิพาทระหว่าง BEM กับการทางพิเศษฯ นั้น

เบื้องต้นมีประเด็นอยู่ 2 ส่วน 1.ขยายสัมปทานให้ BEM 15 ปี เพื่อแลกกับการยุติค่าความเสียหายที่เกิดจากข้อพิพาท และ 2. ขยายสัมปทานให้ BEM ต่ออีก 15 ปี รวมเป็น 30 ปี เพื่อแลกกับการสร้างทางด่วน 2 ชั้น (Double Deck)

นายศักดิ์สยาม มองว่า การก่อสร้าง Double Deck เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรเป็นเรื่องจำเป็น แต่เมื่อพิจารณามติ ครม. แล้วก็พบว่า ครม. สั่งให้การทางพิเศษฯ ไปเจรจาแก้ไขข้อพิพาทกับ BEM แต่ยังไม่เห็นว่า ครม. สั่งให้รวมโครงการก่อสร้าง Double Deck ไว้ในการเจรจาครั้งนี้ด้วยหรือไม่

ดังนั้น จึงต้องพิจารณาว่า ทำไมต้องนำการสร้าง Double Deck มาใส่ในการเจรจายุติข้อพิพาท แทนที่จะเปิดประมูลเป็นการทั่วไป ซึ่งดูแล้วอาจจะไม่สมเหตุสมผล เพราะสัญญาหลักก็กำลังจะหมดอายุในปี 2563 ขณะเดียวกัน ก็ต้องพิจารณาด้วยว่า Double Deck มีมูลค่าเป็นเท่าไหร่ เพราะการสร้าง Double Deck อาจมีมูลค่าน้อยกว่าการขยายสัมปทานทางด่วนออกไปอีก 15 ปีด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ มองว่า ควรหาผู้ที่ทำให้เกิดค่าโง่ในครั้งนี้ด้วย เพราะถ้าไม่ดำเนินการ คนที่ทำก็จะไม่เดือดร้อน และไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

Avatar photo