ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (6 ก.ย.) เคลื่อนไหวในแดนบวก ตามการทะยานขึ้นของหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) จากความวิตกที่ลดลง เพราะความคืบหน้าในการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีน กับสหรัฐ ขณะสินทรัพย์ที่เป็นแหล่งสวรรค์ของการลงทุนแบบปลอดภัย อย่างพันธบัตร และทองคำ เจอกับแรงเทขาย
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดปรับตัวสูงขึ้น 152.27 จุด หรือ 0.72% มาอยู่ที่ 21,238.21 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 203.61 จุด หรือ 0.77% ที่ 26,719.14 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ จีน ขยับขึ้นมา 6.81 จุด หรือ 0.23% ที่ 2,992.68 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์บวก 15.16 จุด หรือ 0.48% ที่ 3,162.22 จุด
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ที่ 26,728.15 จุด พุ่งขึ้น 372.68 จุด หรือ 1.41% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,976.00 จุด เพิ่มขึ้น 38.22 จุด หรือ 1.30% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,116.83 จุด เพิ่มขึ้น 139.95 จุด หรือ 1.75%
แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันเกี่ยวกับการจัดการเจรจาการค้ารอบต่อไปที่กรุงวอชิงตันในช่วงต้นเดือนตุลาคม พร้อมระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนจะปรึกษาหารือกันในช่วงกลางเดือนนี้เพื่อเตรียมการประชุมดังกล่าว
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 195,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 140,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนสิงหาคมของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่ผลสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว ขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%
ทางด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดยท ส่งมอบเดือนตุลาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ เมื่อคืนนี้ เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 56.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ขยับขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 60.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ รายงานปริมาณน้ำมันดิบสำรอง ลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
