ตลาดหุ้นสหรัฐ เปิดซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (5 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ทะยานสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังถึงความตึงเครียดทางการค้าที่ผ่อนคลายลง หลังจากรัฐบาลวอชิงตัน และปักกิ่ง เห็นพ้องที่จะจัดการเจรจาระดับสูงในเดือนหน้า ขณะข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ก็ช่วยบรรเทาความกังวลเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดทะยานขึ้นมา 411.58 จุด หรือ 1.56% ที่ 26,767.05 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับขึ้น 37.80 จุด หรือ 1.29% ที่ 2,975.58 จุด และดัชนีแนสแด็กบวก 120.30 จุด หรือ1.51% มาอยู่ที่ 8,097.18 จุด
กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า คณะเจรจาการค้าของกระทรวงจะวางกรอบการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ก่อนถึงการหารือในเดือนตุลาคม
ดัชนีย่อยกลุ่มเทคโนโลยี กลายเป็นแรงหนุนหลักให้กับดัชนีเอสแอนด์พี 500 จากการที่พุ่งขึ้นมากถึง 2.05% ขณะที่กลุ่มการเงินทะยานขึ้นมา 2.31% สูงสุดในกลุ่มธุรกิจทั้ง 11 กลุ่มของเอสแอนด์พี
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ข่าวเรื่องการค้าช่วยหนุนความรู้สึกในตลาด และข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมา ก็กลายเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดการเข้าลงทุนมากขึ้น
ทั้งนี้ รายงานการจ้างงานแห่งชาติ เอดีพี ซึ่งถือเป็นรายงานการจ้างงานเบื้องต้น ก่อนที่รายงานที่มีความครอบคลุมมากขึ้นของกระทรวงแรงงานจะออกมา แสดงให้เห็นว่า เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ธุรกิจเอกชนสหรัฐมีค่าใช้จ่ายในเรื่องการจ่ายค่าแรงเพิ่มสูงขึ้น ในระดับที่เร็วสุดในรอบ 4 เดือน นำโดยค่าแรงในภาคบริการ ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
สอดคล้องกับผลสำรวจของภาคเอกชนรายอื่น ที่แสดงให้เห็นว่า ภาคบริการสหรัฐ ขยายตัวเร็วขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ฟื้นตัวขึ้นมาจากระดับซบเซาสุดในรอบเกือบ 3 ปี ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่ก็สูงขึ้นจนแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ข้อมูลที่ออกมาด้านบวกเหล่านี้ ช่วยผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจขาลง แต่นักลงทุนยังจับตามองอย่างใกล้ชิด ถึงข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่เป็นตัวชี้วัดสำคัญอีกตัวหนึ่ง ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ย.)
