ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (5 ก.ย.) ทะยานสูงขึ้น ขานรับความคืบหน้าในวิกฤติการเมืองของอังกฤษ กรณีเบร็กซิท และในฮ่องกง ที่หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร “แคร์รี หลำ” ประกาศถอนร่างกฎหมายชนวนเหตุการประท้วง สถานการณ์ที่ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุด ทะยานขึ้น 483.11จุด หรือ 2.34% ที่ 21,132.25 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ปรับขึ้น 127.28 จุด หรือ 0.48% ที่ 26,650.51 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน เพิ่มขึ้น 37.52 จุด หรือ1.27% มาอยู่ที่ 2,994.93 จุด และดัชนีเสตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ขยับขึ้น 15.64 จุด หรือ 0.50% ที่ 3,146.21 จุด
ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) ที่ 26,355.47 จุด พุ่งขึ้น 237.45 จุด หรือ 0.91% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,937.78 จุด เพิ่มขึ้น 31.51 จุด หรือ 1.08% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 7,976.88 จุด เพิ่มขึ้น 102.72 จุด หรือ 1.30%
ทางด้านค่าเงินปอนด์ ของอังกฤษ ซื้อขายในตลาดเอเชียวันนี้ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากที่ส.ส.อังกฤษ ลงมติคัดค้านแผนการของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ที่จะนำอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิท ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้แบบไร้ข้อตกลง
ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในฮ่องกง ที่นางหลำประกาศถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนฉบับปรับปรุงใหม่ ซึ่งเป็นต้นเหตุจุดชนวนการประท้วงที่ยืดเยื้อมาจนถึงทุกวันนี้ และเป็น 1 ใน 5 ข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มผู้ประท้วง
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ชี้ว่า ยังมีข้อกังขาอยู่บ้างว่า ความรู้สึกด้านบวกของนักลงทุนจะคงอยู่ไปนานเท่าใด เพราะทั้งเรื่องเบร็กซิท และฮ่องกง ยังไม่ได้ยุติลงอย่างสมบูรณ์
ในส่วนของตลาดน้ำมันนั้น ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ของสหรัฐ ซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ขยับตัวลงมาเล็กน้อย 0.34% ที่ 56.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังเมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ พุ่งขึ้นไปถึง 2.32 ดอลลาร์ ปิดซื้อขายที่ 56.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐจะปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3
