นายธีรเดช เกิดสำอางค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จากัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมตลาด ทาวน์เฮาส์ ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในปี 2561 คาดว่ามีมูลค่าตลาดประมาณ 8.8 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 14% ในส่วนของพฤกษาปีนี้ จะเปิดขายทาวน์เฮาส์ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 1.9 หมื่นล้านบาท และต่างจังหวัดอีก 3,000 ล้านบาท รวมเป็น 2.2 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 22% จากตลาดรวม กลุ่มธุรกิจทาวน์เฮาส์ ถือเป็นพอร์ตหลักของพฤกษา มีสัดส่วน 45% ของพอร์ตโครงการพฤกษาทั้งหมด
เพื่อตอกย้ำความสำเร็จที่พฤกษา ครองส่วนแบ่งการตลาดทาวน์เฮาส์อันดับหนึ่งมานานกว่า 10 ปี และส่งมอบบ้านให้ลกูค้าไปแล้วกว่า 1.3 แสนยูนิต พฤกษาจึงตั้งเป้ารักษาความเป็นเจ้าตลาด โดยมีแผนเจาะกลุ่มไปยังทาวน์เฮาส์ในระดับราคา 5-7 ล้านบาทมากขึ้น ควบคู่กับตลาดระดับกลาง ที่ราคา 1.5-3 ล้านบาท ซึ่งพฤกษาเป็นผู้นำตลาดในระดับราคานี้อยู่แล้ว แต่จะพัฒนาตลาดระดับราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์
นอกจากนี้ พฤกษายังมีแผนรุกตลาดต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยวและนิคมอุตสาหกรรม มีมูลค่าตลาดใหญ่เกือบ 6 หมื่นล้านบาท ด้วยการขยายการลงทุนในจังหวัดใหม่เพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค ทั้ง เชียงใหม่ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ภูเก็ต ขอนแก่น นครราชสีมา เชียงราย พิษณุโลก โดยตั้งเป้าจะขยาย 20 จังหวัดภายในปี 2563
เพิ่มจุดขายนวัตกรรมบ้านหายใจได้
นอกจากกลยุทธ์ด้านการขยายตลาดแล้ว อีกหนึ่งกลยทุธ์ที่วางไว้เพื่อทำให้พฤกษา คงความเป็นอันดับหนึ่งในตลาดทาวน์เฮาส์ คือการใส่ใจพัฒนาคณุภาพสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง โดยพฤกษามีจุดแข็งด้านนวัตกรรมการก่อสร้าง เป็นรายแรกของประเทศ ที่นำเทคโนโลยี พรีคาสท์ (Precast)จากเยอรมันมาใช้อย่างจริงจัง มีโรงงานผลิตแผ่นพรีคาสท์ที่มีมาตรฐานระดับโลก
พฤกษายังได้ร่วมกับพันธมิตร เพื่อนำนวัตกรรม และอินโนเวชั่น มาใช้ในกลุ่มทาวน์เฮาส์ต่อเนื่อง อาทิ นวัตกรรมบ้านหายใจได้ หรือการออกแบบระบบไหลเวียนอากาศภายในบ้าน โดยใช้แนวคิดการดึงอากาศจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้ดี ส่งผลให้ความร้อนในตัวบ้านลดลง ล่าสุดได้จดสิทธิบัตรแล้ว
อีกทั้งมีการนำระบบ Home Automation ที่สามารถควบคมุและสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านผ่าน Smart Phone ตลอดจนการใช้เสาเข็มมาตรฐานมอก. เสริมความแข็งแรงของพื้นที่หลังบ้านด้วยเสาเข็มขนาดยาวลึกเท่าตัวบ้าน รองรับการใช้งานเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ของลูกค้า
นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาเทรนด์โลก นำเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้พัฒนาสินค้าและบริการอยู่เสมอ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอนาคต รวมทั้งการพัฒนาฐานข้อมูลลูกค้าของพฤกษา ซึ่งมีอยู่กว่า 1 ล้านคน มาวิเคราะห์ประมวลผลเชิงลึก เป็นการนำ BIG DATA มาพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด