หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริการเกาะฮ่องกง “แคร์รี หลำ” ประกาศถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนฉบับปรับปรุงใหม่แล้วในวันนี้ (4 ก.ย.) หวังให้ฮ่องกงหลุดพ้นจากภาวะไร้เสถียรภาพ และเป็นสถานที่อันตราย พร้อมมองหาทางออกร่วมกัน
นางหลำ ประกาศเรื่องนี้ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ โดยระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำลายรากฐานของสังคมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของหลักนิติธรรม
“คณะบริหารเกาะฮ่องกงจะดำเนินการถอนร่างกฎหมายอย่างเป็นทางการ เพื่อบรรเทาความวิตกของประชาชน”
การตัดสินใจถอนร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มผู้ประท้วงนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ ฮ่องกงอยู่ในสภาพที่เกือบจะกลายเป็นรัฐอนาธิปไตย จากการปะทะอย่างต่อเนื่องระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจล ที่ทำให้มีผู้ประท้วงโดนจับกุมมากกว่า 1,000 คน และเกิดความแตกแยกในสังคมอย่างมาก
นางหลำ ยังให้คำมั่นว่า คณะเจ้าหน้าที่บริหารเกาะฮ่องกงจะปฏิบัติตามคำแนะนำในรายงานของสภาการร้องเรียนตำรวจอิสระ (ไอพีซีซี) อย่างจริงจัง และว่าตั้งแต่เดือนนี้ไป เธอ และเจ้าหน้าที่รัญ จะเริ่มเจรจาโดยตรงกับประชาชน เพื่อหาทางออกที่จะแก้ไขความขัดแย้งในสังคม และหาทางออก
อย่างไรก็ดี ยังไม่แน่ชัดว่า การถอนร่างกฎหมายนี้ จะช่วยยุติความไม่สงบที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ โดยหลายฝ่ายยังแสดงความกังขาในเรื่องนี้อยู่
เอมิลี นักเรียนวัย 16 ปี ซึ่งเข้าร่วมการนั่งประท้วงที่โรงเรียนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (2 ก.ย.) แสดงความเห็นว่า นางหลำเดินมาถูกทางแล้ว แต่เธอยังสงสัยถึงผลที่จะตามมา และว่าไม่มีอะไรที่จะรับประกันได้ว่า จะไม่มีการร่างกฎหมายแบบเดียวกันนี้ขึ้นมาอีก
ส่วนนักเรียนอีกรายหนึ่งที่ร่วมในการประท้วงด้วย บอกว่า การถอนร่างกฎหมายเป็นแค่ 1 ข้อใน 5 ข้อเรียกร้องเท่านั้น ซึ่งผู้ประท้วงส่วนใหญ่ยังจะเดินหน้าประท้วงต่อไป จนกว่าทางการจะทำตามข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ
ขณะที่ “โจเซฟ เฉิน โชเว่ย” นักรัฐศาสตร์ แสดงความเห็นว่า การประกาศของหลำยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนสงบลงได้ เพราะที่ผ่านมา ไม่มีการปลดเจ้าหน้าที่ และไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนจัดการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ทำให้การประกาศที่ออกมาล่าสุดนี้ แทบจะไม่สร้างความเปลี่ยนแปลงใดๆ
