Economics

จีซี-แอลพลา จับมือผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลมาตรฐานยุโรปแห่งแรก

“จีซี” จับมือ “แอลพลา” ยักษ์ใหญ่ผลิตบรรจุภัณฑ์ของยุโรป ตั้งบริษัทร่วมทุน ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงแห่งแรกของไทย มูลค่าการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน-ปฏิวัติการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

Mou ๑๙๐๙๐๔ 0004

วันนี้ (4 ก.ย.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือจีซี ร่วมลงนามกับนายกุนเธอร์ เลเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลพลา จำกัดประเทศออสเตรีย ร่วมทุนตั้งบริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO) สร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล มาตรฐานยุโรปแห่งแรกของประเทศไทย

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ เราตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิวัติการใช้ทรัพยากร (Resource Revolution) ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

PACK 936

โดยจีซีได้นำแนวทาง “GC Circular Living” มาปรับใช้ในการดำเนินงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร รวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการจัดการขยะพลาสติก ผ่านโครงการต่างๆ ของบริษัท อาทิ โครงการ Upcycling the Oceans, Thailand หรือโครงการเก็บขยะพลาสติกจากทะเล มาผ่านกระบวนการผลิตเป็นสินค้าแฟชั่น, โครงการ ThinkCycle Bank ที่ให้ความรู้สร้างความเข้าใจในการจัดการขยะให้กับเด็กและเยาวชน และโครงการ PPP Rayong โครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการจัดการขยะ เป็นต้น

ขยะขวดพลาสติกใต้ทะเล 1

และธุรกิจเม็ดพลาสติกรีไซเคิล ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาที่เกิดจากพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง ( Single-use plastic ) เช่น ถุงหิ้วต่างๆ

จึงได้ร่วมลงทุนกับ บริษัทแอลพลา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในการผลิตบรรจุภัณฑ์ของโลก ร่วมลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล จากขยะพลาสติก มูลค่าการลงทุน 3,000 ล้านบาท สัดส่วนการลงทุนเป็นของจีซี 70% และบริษัทแอลพลา 30% 

IMG 20190904 135115

โดยตั้งเป็นบริษัทร่วมทุน ชื่อ บริษัท เอ็นวิคโค จำกัด (ENVICCO Limited) เพื่อผลิตเม็ดพลาสติกหมุนเวียนคุณภาพสูง ตั้งอยู่ที่นิคมเอเชีย มาบตาพุด จังหวัดระยอง

โรงงานแห่งนี้จะรับขยะพลาสติก ปริมาณ 60,000 ตันต่อปี พันธมิตรของเราในการนำขยะพลาสติกเข้าสู่โรงงาน มาจาก 2 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทวงษ์พาณิชย์ และบริษัท ปราบขยะรีไซเคิล จำกัด ซึ่งขยะพลาสติกจะมาจากทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่ระยอง ผลิตโพลีเอสเตอร์ ขนาด 30,000 ตันต่อปี วัตถุดิบผลิตขวด PET และ โพลีเอทธิลีน วัตถุดิบผลิตบรรจุภัณฑ์ 15,000 ตัน

ส่วนตลาดที่นำเม็ดพลาสติกรีไซเคิลไปใช้ ไม่น่าห่วงเลย เพราะปัจจุบันความต้องการกำลังเติบโต มีบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งต่างต้องการใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิล เพื่อมีส่วนร่วมในการลดปัญหาขยะของโลก ซึ่งเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่ผลิตจากโรงงาน บริษัทแอลพลาในฐานะผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของโลก ก็จะรับไปเป็นส่วนใหญ่ ที่เหลือขายให้กับบริษัทอื่นๆ เช่น พีแอนด์จี โค้ก  เป็นต้น

Mou ๑๙๐๙๐๔ 0013

“รายได้จากโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล อาจจะไม่เท่ากับธุรกิจอื่นๆของเรา แต่ต้องทำเพื่อรับผิดชอบต่อสังคม นำขยะพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน นอกจากจะนำมาเป็นวัตถุดิบผลิตขวดน้ำต่างๆ รวมถึงบรรจุภัณฑ์แล้ว และจะนำไปผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์บรรจุอาหารอีกด้วย “

ทั้งนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณปีละ 1,700 ล้านบาท ซึ่งราคาเม็ดพลาสติกรีไซเคิล และเม็ดพลาสติกทั่วไปจะใกล้เคียงกัน หรืออยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อตัน อย่างไรก็ตามอนาคตจีซีมีแผนที่จะเลิกผลิตเม็ดพลาสติกสำหรับนำไปผลิตพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งในปี 2567 

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวย้ำว่า ความร่วมมือระหว่างจีซี และ แอลพลา ทำให้เกิดโรงงานเม็ดพลาสติกรีไซเคิลต้นแบบ มาตรฐานสูงแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งแอลพลาเป็นผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจรีไซเคิลตลอดห่วงโซ่การบริหารจัดการ และการใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจากทวีปยุโรป

ทำให้มีระบบการจัดการที่ดี การออกแบบการผลิตที่รักษาและดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์รีไซเคิลที่มีคุณภาพสูง สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้พลาสติกใช้แล้ว ให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างคุ้มค่า รวมทั้งการเกิดการจ้างงานคนในชุมชน จังหวัดระยองนอกจากนี้แผนการจัดหาขยะพลาสติกจะทำผ่านกิจกรรมความร่วมมือกับชุมชนอีกด้วย

”เราจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ด้วยการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี การลดปริมาณขยะการใช้พลาสติกอย่างคุ้มค่า ด้วยการนำกลับมาใช้ซ้ำ สนับสนุนผลิตภัณฑ์รีไซเคิล หรืออัพไซเคิล รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อมให้โลกของเรา”นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

Mou ๑๙๐๙๐๔ 0012

ด้านนาย กุนเธอร์ เลเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลพลา จำกัด กล่าวว่า แอลพลา เป็นบริษัทชั้นนำทางด้านการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกมากว่า 60 ปี โดยมีฐานการผลิต 178 แห่งทั่วโลก ใน 46 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลจากบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว ประเภทวัสดุ PET และ HDPE ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย

ปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในยุโรป และละตินอเมริกา โรงงานแห่งใหม่ที่เราลงทุนร่วมกับจีซีจะเป็นแห่งที่ 3 ของเรา ทั้งนี้แอลพลามีความยินดีอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือกับจีซีในครั้งนี้ เพราะมีแนวทางการทำธุรกิจที่สอดคล้องกัน

และด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน ความเชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย แอลพลาจะช่วยสนับสนุนให้โครงการผลิตเม็ดพลาสติกหมุนเวียนของจีซี ในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่มีคุณภาพสูง และเป็นผู้นำของผู้ผลิตเม็ดพลาสติกหมุนเวียนระดับประเทศ และภูมิภาค

Avatar photo