“ศักดิ์สยาม” ไม่พอใจแผนฟื้นฟู “ขสมก.” หวั่นซื้อรถเมล์ใหม่มาเต็มแม็กซ์แล้วไม่มีคนนั่ง สั่งเร่งรื้อแผนขนานใหญ่ แล้วให้นำกลับเสนอภายใน 1 เดือน กำชับต้องฟังเสียงสภาพัฒน์-กระทรวงการคลังด้วย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมปรับปรุงแผนฟื้นฟูขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วันนี้ (4 ก.ย.) ว่า วันนี้ผู้บริหาร ขสมก. ได้มารายงานรายละเอียดของแผนฟื้นฟูองค์กรให้ตนรับทราบ แต่ตนยังไม่พอใจแผนฟื้นฟูฉบับดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ดังนั้น จึงสั่งการให้ ขสมก. กลับไปทบทวนแผนฟื้นฟูองค์กรใหม่และกลับมานำเสนอภายใน 1 เดือน หลังจากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
สำหรับประเด็นที่ ขสมก. ต้องไปทบทวนให้ชัดเจน คือ การแบ่งเส้นทางเดินรถระหว่าง ขสมก. และรถเอกชนร่วมบริการ (รถร่วมฯ) เพื่อไม่ให้มีเส้นทางทับซ้อนกัน รวมถึงพิจารณาความต้องการการเดินทางของประชาชนด้วย เพราะรถเมล์ ขสมก. ต้องให้บริการเชื่อมต่อกับขนส่งมวลชน (Mass Transit) ระบบอื่นๆ ถ้าระบบขนส่งมวลชนอื่นมีจำนวนมากขึ้นในอนาคต ขสมก. ก็อาจไม่ต้องจัดหารถเมล์ใหม่จนเต็มกรอบที่ได้รับการอนุมัติ
เบื้องต้นนายศักดิ์สยามมองว่า ขสมก. ควรขออนุมัติกรอบการจัดหารถเมล์เป็นกรอบใหญ่ไว้ก่อน จากนั้นก็ทยอยจัดหารถเมล์ใหม่เป็นช่วงๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ ถ้าถึงจุดที่ระบบขนส่งมวลชนในภาพรวมมีปริมาณเพียงพอแล้ว ขสมก. อาจไม่ต้องจัดหารถเมล์ให้เต็มกรอบก็ได้ ภาครัฐจะได้ไม่ต้องเสียงบประมาณโดยไม่จำเป็น
“ทั้งหมดอาจจะกำหนดกรอบใหญ่ไว้ ถ้าดำเนินการและบูรณาการไปแล้ว ความจำเป็นไม่ถึงกรอบใหญ่ ก็ให้หยุด เพราะถ้าใส่รถไปแล้ว Mass Transit ระบบอื่นมา แล้วคนหันไปใช้ Mass Transit ระบบอื่น กลายเป็นรถเมล์ ขสมก. ว่าง ก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องจัดหารถให้เต็มกรอบใหญ่” นายศักดิ์สยามกล่าว
สำหรับรถเมล์ไฟฟ้า (EV) ที่แผนฟื้นฟูกำหนดให้จัดหา 35 คันนั้น ก็ให้ไปพิจารณาต้นทุนให้ชัดเจน เพราะแม้รถเมล์ไฟฟ้าจะมีราคาแพง แต่เทคโนโลยีก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในอนาคต 2- 3 ปีข้างหน้า ก็อาจจะมีราคาถูกลง ด้านรถเมล์ที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ปัจจุบันมีราคาถูกที่สุด แต่ในอนาคตก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้
อย่างไรก็ตาม ราคาการจัดหารถเมล์ก็ต้องก็มีแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน อย่าคิดเอาเอง เพราะต้องอธิบายให้สาธารณชนฟัง ขณะเดียวกัน ขสมก. ก็ต้องนำข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังมาพิจารณาด้วย เพราะปัจจุบัน ขสมก. ใช้ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เท่านั้น
นอกจากนี้ให้ไปดูเรื่องหนี้สินขององค์กรมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังต้องรับไปบริหารด้วยว่า จะต้องดำเนินการอย่างไร โดยเชื่อว่าถ้า ขสมก. สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูได้ก็จะมีผลประกอบการเป็นบวก สามารถดูแลตัวเองได้ และเป็นต้นแบบให้รัฐวิสาหกิจอื่นๆ ในอนาคต
รายงานข่าวจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แจ้งว่า นายศักดิ์สยามได้สั่งการให้ ขสมก. ไปทบทวนความต้องการในการใช้รถเมล์ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากมองว่าปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกการเดินทางรูปแบบอื่นเพิ่มขึ้นแล้ว โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่กำลังจะทยอยเปิดให้บริการเพิ่มเติมอีกหลายเส้นทาง รวมทั้งให้ไปพิจารณาเรื่องเส้นทางทับซ้อนกับรถร่วมฯ ด้วย
โดยแผนฟื้นฟูฉบับปัจจุบันกำหนดให้ ขสมก. จัดหารถเมล์ใหม่จำนวน 3,000 คัน แต่ถ้ามีความจำเป็นลดลง ก็อาจลดปริมาณลดลงและก็จะทำให้งบประมาณในการจัดหาลดลง ไม่ถึง 1.3 หมื่นล้านบาทตามแผนเดิม
นอกจากนี้ นายศักดิ์สยามได้สั่งการให้ ขสมก. ไปจัดทำรายละเอียดแผนบริหารจัดการหนี้สินกว่า 1.2 แสนล้านใหม่ เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการยกหนี้ให้กระทรวงการคลังบริหารจัดการ
- คนกรุงเฮ! ครม.ไฟเขียวแผนฟื้นฟู ‘ขสมก.’ ถึงเวลาลุยจัดหารถเมล์ใหม่ 3,000 คัน
- ขสมก. ทดลองวิ่งรถเมล์ไฟฟ้ายี่ห้อ ‘Thai EV’ เล็งเก็บข้อมูลไว้ซื้อรถล็อตใหญ่ 35 คัน
- โอละพ่อ! สถิติฟ้อง ‘รถเมล์เอ็นจีวี’ เสียบ่อยกว่าปกติเกือบ 3 เท่า ‘ขสมก.’ จี้เอกชนเร่งแก้ไข
- ‘ช ทวี’ ยอมรับ ‘รถเมล์เอ็นจีวี’ เสียถี่กว่าปกติ ทุ่ม 100 ล้านบาทเปลี่ยนอะไหล่ยกฟลีต
- ‘สุระชัย’ ผอ.ขสมก.สุดฟิต! ลั่นดันจัดหา ‘รถเมล์ใหม่’ 2 หมื่นล้านบาทเข้า ครม.