ตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้าวันนี้ (4 ก.ย.) เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย หลังข้อมูลการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ ทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่แรงช้อนซื้อหุ้นที่มีมูลค่าร่วงลงอย่างมาก ช่วยหนุนให้หลายตลาด เคลื่อนไหวในแเดนบวกได้
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดขยับลงมา 1.36 จุด หรือ 0.01% ที่ 20,623.80 จุด ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ทะยานขึ้น 348.81 จุด หรือ 1.37% ที่ 25,876.66 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนขยับขึ้น 7.61 จุด หรือ 0.26% ที่ 2,937.76 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ปรับขึ้น 14.08 จุด หรือ 0.46% ที่ 3,104.71 จุด
ขณะที่ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) ที่ 26,118.02 จุด ร่วงลง 285.26 จุด หรือ 1.08% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,906.27 จุด ลดลง 20.19 จุด หรือ 0.69% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 7,874.16 จุด ลดลง 88.72 จุด หรือ 1.11%
ตลาดตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากข้อมูลการผลิตของสหรัฐ ที่หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ประกอบกับจีน และสหรัฐ เริ่มต้นการขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าของแต่ละประเทศ ทำให้นักลงทุนกังวลมากขึ้นว่า เศรษฐกิจจะตกอยู่ในภาวะถดถอย
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาดไม่มีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวมากนัก จากปัจจัยลบ 2 ประการดังกล่าว ทั้งผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังร่วงลงมาอย่างมาก
ส่วนราคาน้ำมันดิบสหรัฐ ในตลาดเอเชียเช้าวันนี้ ปรับลงมาเล็กน้อย 0.04% ที่ 53.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลว่า ภาคการผลิตของสหรัฐและยุโรปที่เข้าสู่ภาวะถดถอย จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก ทั้งยังได้รับแรงกดดันจากข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปคที่ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนสิงหาคม
