ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (3 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ดิ่งลงอย่างหนัก หลังข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ภาคการผลิตของสหรัฐ หดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559 ทำให้นักลงทุนกังวลมากขึ้นว่า เมื่อประกอบกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างแดนอินทรี กับจีนแล้ว อาจทำให้เศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่สุดของโลก ตกอยู่ในภาวะถดถอย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดร่วงลง 326.40 จุด หรือ 1.24% มาอยู่ที่ 26,076.88 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 21.32 จุด หรือ 0.73% ที่ 2,905.14 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 70.56 จุด หรือ 0.89% ที่ 7,892.32 จุด
สถาบันเพื่อการบริหารจัดการด้านการจัดหา เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมโรงงานแห่งชาติ ประจำเดือนสิงหาคม ของทางสถาบัน หดตัวลงมาอยู่ที่ 49.1 จุด ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ราว 51.1 จุด
ข้อมูลการผลิตที่อ่อนแอ ยังสร้างแรงกดดันต่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ที่พันธบัตรอายุ 10 ปี มีผลตอบแทนร่วงลงมาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559
นอกจากนี้ ยังกดให้ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารโดยรวม ร่วงลง 2% เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความอ่อนไหวกับเรื่องการค้า ลดลง 1.77% และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ลดลง 1.38%
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ กับจีน เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่าย เริ่มเก็บภาษีอัตราใหม่ คต่อสินค้านำเข้าจากแต่ละฝ่าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (1 ก.ย.) และยิ่งทำให้นักลงทุนมีความวิตกถึงผลกระทบจากสงครามการค้า ที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจมากขึ้น
