World News

เริ่มรอบใหม่ ! ‘จีน-สหรัฐ’ แลกหมัดขึ้นภาษีสินค้านำเข้า

สหรัฐเริ่มต้นการจัดเก็บภาษีทุ่มตลาดในอัตรา 15% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนหลากหลายประเภท รวมถึง รองเท้า นาฬิกาอัจฉริยะ และโทรทัศน์จอแบน เมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ขณะที่จีนเองก็เริ่มจัดเก็บภาษีอัตราใหม่ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ความเคลื่อนไหวล่าสุด ที่ทำให้การทำสงครามการค้าของ 2 ประเทศ มีความรุนแรงมากขึ้น

TradeWar Thumb Top
ภาพ : nikkei asian review

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ทวีตข้อความว่า เป้าหมายของเขาคือ ให้สหรัฐลดพึ่งพาจีน พร้อมเรียกร้องอีกครั้งให้บริษัทอเมริกัน หาซัพพลายเออร์ใหม่ที่อยู่นอกประเทศจีน

ผู้นำสหรัฐ ยังอ้างการแสดงความเห็นของ ปีเตอร์ โมริซี นักเศรษฐศาสตร์อเมริกัน ที่บอกว่า การขึ้นภาษีไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคสหรัฐ มากเท่ากับเงินหยวนที่อ่อนค่าลง

“เราไม่ต้องการเป็นคนรับใช้ชาวจีน นี่เป็นเรื่องเสรีภาพของชาวอเมริกัน ลองเปลี่ยนซัพพลายเชนใหม่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องซื้อทุกอย่างจากจีน”

อย่างไรก็ดี ผลศึกษาจากหลายสำนักชี้ว่า การจัดเก็บภาษีอัตราใหม่ต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ามากกว่า 125,000 ล้านดอลลาร์ จะทำให้ครัวเรือนสหรัฐมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นราว 1,000 ดอลลาร์ต่อปี และจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนหนึ่งในสหรัฐ

ในการตอบโต้กับมาตรการล่าสุดของรัฐบาลวอชิงตันนั้น จีนได้กำหนดขึ้นภาษีอีก 5% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐบางรายการ จากรายชื่อสินค้านำเข้าที่ตกเป็นเป้าหมายรวมมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้

china us trade war imports tariffs

สตีฟ ลามาร์ รองประธานสมาคมรองเท้า และเสื้อผ้าอเมริกัน แสดงความเห็นว่า การจัดเก็บอัตราภาษีใหม่ดังกล่าว เกิดขึ้นตรงกับช่วงเทศกาลซื้อของครั้งใหญ่ของปี ซึ่งแม้รัฐบาลจะบอกว่า การเคลื่อนไหวนี้ส่งผลกระทบกับจีน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องนี้สร้างความเสียหายให้กับชาวอเมริกัน เพราะสินค้าจะมีราคาแพงขึ้น ยอดขายก็จะลดลง และก็จะเกิดการสูญเสียตำแหน่งงานตามมา

เขาบอกด้วยว่า ถ้าหากสหรัฐดำเนินการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ และใจเย็นๆ ก็สามารถเกิดความคืบหน้าในการเจรจากับจีนได้ ไม่ใช่มาทำให้ชาวอเมริกันต้องจ่ายเงินซื้อเสื้อผ้าราคาแพงขึ้น

ขณะที่ ริชาร์ด ทรัมกา ประธานองค์กรสภาอุตสาหกรรม และสหพันธ์แรงงานอเมริกัน (เอเอฟแอล-ซีไอโอ) ให้สัมภาษณ์ว่า ทรัมป์ตัดสินใจถูกที่เผชิญหน้ากับจีน แต่ “โชคร้าย” ที่เขาทำผิดวิธี เพราะการที่จะรับมือกับจีนนั้น จำเป็นต้องหาทางเข้าถึงในแบบหลายฝ่ายด้วยกัน ไม่มีประเทศใดเพียงประเทศเดียวที่จะทำให้ความสามารถที่ล้นเกินของจีนเหือดแห้งไปได้ เพราะจีนก็มีช่องทางอื่นๆ ที่จะเข้าถึงสหรัฐได้

Trump Xi

ทางด้านสื่อของรัฐบาลจีน อย่าง สำนักข่าวซินหัว ก็ออกมาตอบโต้การเคลื่อนไหวของสหรัฐ โดยวิจารณ์ว่า สหรัฐควรที่จะเรียนรู้การปฏิบัติตัวอย่างมหาอำนาจโลกที่มีความรับผิดชอบ และหยุดทำพฤติกรรมแบบเด็กเกเรตามโรงเรียนได้แล้ว

“ในฐานะที่เป็นชาติมหาอำนาจเพียงรายเดียวของโลก สหรัฐควรตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มีอยู่ และร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ทำให้โลกเป็นสถานที่ที่ดีขึ้น และมีความรุ่งเรืองมากขึ้น ถ้าทำได้เมื่อไร อเมริกาก็จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง”

ส่วนบทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี่ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า การขึ้นภาษีนำเข้าไม่ได้บั่นทอนการพัฒนาของจีนแต่อย่างใด

“เศรษฐกิจที่เฟื่องฟูของจีน ทำให้จีนเป็นแหล่งที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน ในแบบที่บริษัทต่างชาติปฏิเสธไม่ได้”

Avatar photo