กฟผ. ยืนยัน นำเข้าแอลเอ็นจี 1.5 ล้านตันไร้ปัญหา Take or Pay หลังเจรจาผู้ขายได้ข้อยุติ ปรับลดสัญญานำเข้า
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษก การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ชี้แจงประเด็นการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ของ กฟผ.ว่า จะไม่ทำให้เกิดปัญหาค่าปรับตามสัญญาไม่ใช้ก็ต้องจ่าย หรือ Take or Pay
เนื่องจาก กฟผ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมแผนบริหารจัดการ ไม่ให้เกิดค่า Take or Pay แล้ว โดยสัญญาซื้อขายแอลเอ็นจีของ กฟผ. มีความยืดหยุ่น สามารถปรับลดปริมาณการนำเข้า โดยกำหนดปริมาณไว้ระหว่าง 0.8 -1.5 ล้านตันต่อปี อีกทั้ง กฟผ. ได้เจรจากับบริษัทคู่สัญญาให้ดำเนินการขายแอลเอ็นจี ในส่วนที่ไม่ได้ใช้ให้กับรายอื่นแทน กฟผ.แล้ว
ทั้งนี้การนำเข้าแอลเอ็นจีของกฟผ.เป็นไปตามนโยบายของรัฐ และมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 เพื่อส่งเสริมการแข่งขันกิจการก๊าซธรรมชาติ ในการเปิดเสรีแก่บุคคลที่สาม โดยมอบหมายให้ กฟผ. นำร่องเป็นผู้จัดหาและนำเข้าแอลเอ็นจีไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี
ต่อมากฟผ.จึงได้ดำเนินการเปิดประมูลจัดหา และนำเข้าก๊าซธรรมชาติตามขั้นตอน เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกราย ทั้งในประเทศและต่างประเทศแข่งขันเสนอราคา จนกระทั่งได้ผู้เสนอราคาแอลเอ็นจีที่มีราคาถูกกว่าราคาต่ำสุดของสัญญาจัดหาระยะยาวของประเทศในปัจจุบัน
และหากนำไปเฉลี่ยรวมกับก๊าซธรรมชาติ จากอ่าวไทย และเมียนมาร์จะมีราคาถูกลง เมื่อเทียบกับแอลเอ็นจีที่ใช้อยู่ในระบบปัจจุบัน โดยจะนำไปใช้ในโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของ กฟผ. เพื่อไม่ให้เกิดภาระต้นทุนการผลิตไฟฟ้า
