กองทัพเมียนมาประกาศปลดนายทหารระดับสูง ที่มีชื่ออยู่ในประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรอบใหม่ของสหภาพยุโรป (อียู) ที่มีการกล่าวหาถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงในวิกฤติชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา รวมถึง การสังหาร และล่วงละเมิดทางเพศ
เฟซบุ๊กของกองทัพเมียนมา โพสต์ข้อความกลางดึกวันจันทร์ที่ผ่านมา (25 มิ.ย.)ว่า พลตรีหม่อง หม่อง โซ อดีตผู้บัญชาการทหารภาคตะวันตกในรัฐยะไข่ ถูกปลดออกจากกองทัพแล้ว จากการดำเนินงานที่ย่ำแย่
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่อียูระบุว่า พลตรีหม่อง หม่อง โซ เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ความมั่นคง 7 ราย ที่ถูกอียูห้ามเข้าประเทศ และอายัดทรัพย์สินที่มีอยู่ในเขตแดนของอียู
อย่างไรก็ดี กองทัพเมียนมาไม่ได้เชื่อมโยงการปลดดังกล่าวเข้ากับมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ของอียูแต่อย่างใด
โพสต์บนเฟซบุ๊ก ระบุว่า พลตรีหม่อง หม่อง โซ กลับเข้าประจำการรอบใหม่ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และการถูกปลดจากตำแหน่งในครั้งนี้ เกิดจากการไร้ความสามารถในการทำงานเพื่อสร้างเสถียรภาพในรัฐยะไข่
พลตรีหม่อง หม่อง โซ ยังตกเป็นเป้าคว่ำบาตรของสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว จากเรื่องโรฮิงญา
แถลงการณ์ของกองทัพเมียนมา บอกด้วยว่า ได้อนุมัติการลาออกของพลโทออง จ่อ ซอว์ ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ และขาดความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งนายพลรายนี้ ก็มีชื่อปรากฎอยู่ในรายชื่อของอียูเช่นกัน
ในการประกาศคว่ำบาตรครั้งล่าสุดนั้น อียูระบุว่า บุคคลที่ตกเป็นเป้าการคว่ำบาตรครั้งนี้ เกิดจากการมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือส่วนร่วม ในการทารุณ และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแแรง ต่อชาวโรฮิงญา ในรัฐยะไข่ ช่วงครึ่งหลังของปี 2560
“ความรุนแรงที่เกิดขึ้น รวมถึง การฆาตกรรม การล่วงละเมิดทางเพศ การเผาบ้านเรือน และอาคารต่างๆ ของชาวโรฮิงญาอย่างเป็นระบบ”
ปัจจุบัน ผู้อพยพโรฮิงญาเกือบทั้งหมด อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ ซึ่งคนเหล่านี้บอกว่า พวกเขากลัวเกินกว่าที่จะกลับไปยังเมียนมา แม้รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ จะลงนามในข้อตกลงส่งตัวผู้อพยพกลับบ้านแล้วก็ตาม
