General

‘ศรีสุวรรณ’ ลงพื้นที่บางปู ชาวบ้านร้อง ‘นักการเมือง-นายทุน’ ฮุบที่ดินสาธารณะ

“ศรีสุวรรณ จรรยา” ลุยบางปู รับเรื่องชาวบ้านร้องเรียนขอความเป็นธรรม สำนักงานที่ดินสมุทรปราการ เปิดไฟเขียวเอกชนยื่นขอโฉนดที่ดินราชพัสดุ

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ปลูกบ้านพักอาศัยอยู่ในที่ดินราชพัสดุพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ติดถนนสุขุมวิทด้านทิศใต้ชายฝั่งทะเล ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวปรากฎหลักฐานชัดเจนว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประกาศกระแสร์พระบรมราชโองการของรัชการที่ 6 ซึ่งพระราชทานไว้ให้เพื่อใช้ในการระบายน้ำ มาตั้งแต่พ.ศ.2467

ศรีสุวรรณ3

แต่ปรากฏว่าเมื่อปี 2533 ที่ดินดังกล่าวสำนักงานที่ดินจังหวัดสมุทรปราการ ได้เห็นชอบให้เอกชนสามารถนำไปยื่นขอออกโฉนดเป็นของส่วนตนได้ ทั้งๆ ที่ชาวบ้านมีหลักฐานชัดเจนที่ดินดังกล่าวเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน หรือเป็นที่ราชพัสดุ ใครจะเอาไปออกโฉนดมิได้ หากใครนำไปออกจะถือได้ว่าเป็นการดำเนินการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

นอกจากนี้ ที่ดินดังกล่าวคณะรัฐมนตรีเคยมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อ 26 ก.ย.2538 โดยมีปลัดกระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้นเป็นประธาน มีอธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีกรมธนารักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน เลขาธิการ ป.ป.ป. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นกรรมการ ซึ่งผลการตรวจสอบมีผลออกมาชัดเจนว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นที่ดินเขตประกาศกระแสร์พระบรมราชโองการของรัชการที่ 6 ซึ่งพระราชทานไว้ให้เพื่อการระบายน้ำ ครอบคลุม 7 จังหวัด ซึ่งในแต่ละจังหวัดไม่ปรากฏว่ามีจังหวัดใดเอาที่ดินในเขตประกาศฯไปออกโฉนดได้ เว้นแต่เขตจังหวัดสมุทรปราการ ที่ปล่อยให้นายทุนเอกชนนำไปออกโฉนดได้เกือบ 50 ไร่

ศรีสุวรรณ1

ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ 12 ธ.ค. 2538 ให้กรมธนารักษ์ และกรมชลประทาน ไปดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกหรือนำที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าวไปออกโฉนดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่ทว่าจนบัดนี้หน่วยงานทั้งสองกลับยังมิได้ดำเนินการเรียกคืนที่สาธารณะดังกล่าวกลับคืนมาให้แผ่นดินแต่อย่างใด แต่กลับปรากฏว่าที่ดินดังกล่าวถูกกลุ่มนายทุนร่วมมือกับนักการเมืองใหญ่ ระดับชาติ นำไปขายต่อให้กับนายทุนอุตสาหกรรมก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมไปเสียสิ้น

ขณะที่ชาวบ้านคนยากคนจนที่ปลูกบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ดินบริเวณดังกล่าวมากว่า 50-60 ปี กลับกำลังถูกกลุ่มนายทุนเจ้าของที่ดินรายใหม่ที่ได้โฉนดที่ดินมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไล่ฟ้องคดีขับไล่ชาวบ้านและบังคับคดีอย่างไม่เป็นธรรม จนชาวบ้านถูกไล่รื้อไร้ที่อยู่กันมากในขณะนี้ กระทั่งชาวบ้านหมดที่พึ่ง จึงได้รวมตัวกันร้องขอความช่วยเหลือมายังสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เพื่อขอให้เป็นธุระในการปกป้องสาธารณสมบัติของแผ่นดินและให้ความเป็นธรรมต่อชาวบ้านด้วย

ทั้งนี้ สมาคมฯ จะนำข้อมูล ข้อเท็จจริงไปทวงถามนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตามความประสงค์ของชาวบ้านต่อไป

Avatar photo