Business

8 ข้อคิดจาก ‘สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์’ ซีอีโอพฤกษา เรียลเอสเตท ‘บริหารฝ่ามรสุม’

จากปัญหาเศรษฐกิจอ่อนตัวทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยที่ปีนี้เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญปัญหาในเกือบทุกภาคธุรกิจ ส่งออกที่ถดถอย ตลาดหุ้นที่เทลงและผันผวน หนี้สินครัวเรือนที่สูง กำลังซื้อที่ถดถอย และอื่นๆ อีกมากมาย

l6ry9ik

สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท  จำกัด (มหาชน)  ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แบ่งปันข้อคิดดีๆ และกลยุทธ์ในการนำและบริหารฝ่าคลื่นมรสุมไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

“Leading in tough time” การนำและบริหารฝ่าคลื่นมรสุม

“เช้านี้ตั้งใจจะเตรียมงานที่จะไปนำเสนอแข่งกับหลายประเทศในภูมิภาคในนามประเทศไทย แต่หัวข้อนี้ยังวนเวียนอยู่ในหัว เลยอยากสรุปและ download ออกจากสมอง แบ่งปันข้อคิดให้เพื่อนๆ

เป็นที่รู้กันว่าเศรษกิจโลกอ่อนตัวจากสงครามการค้าผลกระทบเป็นโดมิโน ปัญหาเศรษฐกิจไทยที่เผชิญในเกือบทุกภาคธุรกิจ ส่งออกที่ถดถอย ตลาดหุ้นที่เทลงและผันผวน หนี้สินครัวเรือนที่สูง กำลังซื้อที่ถดถอย และอื่นๆ อีกมากมาย

เจ้าของธุรกิจ ผู้นำองค์กรต่างๆ ก็ตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน … เรียกว่าฝนตกทั่วฟ้า ข้ามีเพื่อน หัวอกเดียวกันทั้งนั้น

จะขอแชร์ข้อคิดมุมมองจากประสบการณ์ที่ผ่านมาในการบริหารว่าเราจะฝ่ามรสุมนี้ไปได้อย่างไร ต้องเริ่มที่ผู้นำเชื่อว่าในทุกวิกฤตมีโอกาสเสมอ ถ้าผ่านไปได้ องค์กรเราจะเข้มแข็งขึ้น ทีมบริหารและพนักงานจะรักกันมากขึ้น จะเป็นบทพิสูจน์ให้เราเห็นฮีโร่ในองค์กรชัดขึ้น 8 ข้อคิดที่จะช่วยฝ่ามรสุมเศรษกิจมีดังนี้ …

1. Agility : ผู้นำและองค์กรต้องมีความคล่องตัว ปรับได้เร็วตามสถานการณ์ที่ผันผวน ผู้นำต้องมีทั้ง สายตาเหยี่ยว (bird’s eyes view) และสายตาม้า (horse eye). สายตาเหยี่ยวคือเห็นภาพใหญ่และภาพไกล ส่วนสายตาม้า คือม้าจะมองเห็นชัดเฉพาะรอบข้าง มีตาม้าคือเห็นสถานการณ์รอบข้างชัดด้วย เพื่อที่จะปรับกลยุทธ์ระยะสั้นและระยะยาวให้เหมาะสม เพื่อที่จะไม่หลงทาง

2. Focus short term with Long term view
กลยุทธ์และแผนงานต้องโฟกัส ในการทำงานมีเรื่องสำคัญมากมาย ผู้นำต้อง make choice เลือกทำที่สำคัญที่สุด focus ที่ core … เน้นขยายจุดแข็ง อะไรที่ทำกำไรทำเงินเข้ากระเป๋ามากที่สุด และแก้ปัญหาที่เป็น fundamental ใหญ่ ๆ ให้องค์กร เพื่อให้เข้มแข็ง แข็งแรง และพร้อมกลับมาโตแบบก้าวกระโดดเมื่อตลาดกลับมาแบบปรกติ

3. Excellent execution with Speed !
การปฏิบัติการเป็นเลิศทั้งองค์กรและด้วยความรวดเร็ว จะทำให้เราถึงเส้นชัยก่อน การร่วมมือของพนักงานทุกคนคือหัวใจ

4. Cash flow and liquidity:
ต้องใส่ใจเป็นพิเศษเรื่อง บริหารเงินหมุนเวียนบริหารassets และ capex ให้มีความพอดีให้มีความคล่องตัว เพราะเงินเข้านั้นหายากขึ้น เงินจ่ายออกมันง่ายและเร็ว ธุรกิจเล็ก ๆ แหล่งเงินทุนไม่ดี อาจล้มได้ง่ายเพราะขาดกระแสเงินสด

5. Cost Efficiency: บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเลิศในทุกบรรทัด เราต้องใช้อย่างฉลาด ต้องมีการทำให้มี cost conscious mindset ให้กับพนักงานทุกคนได้มีส่วนร่วม

6. Innovated and differentiated brands win:
การทำการตลาดในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ส่วนใหญ่จะเล่นเรื่องPrice คือกระหน่ำลดราคา จนลืมสร้างความแตกต่างด้วย Innovation ด้วยแบรนด์ Image และ Quality อันนี้เป็นกับดักนักการตลาดที่ต้องระวัง เพราะหั่นราคามากเกินนานเกินจะทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อถือของแบรนด์อีกด้วย ทั้งนี้การลดราคายังจำเป็นแต่ทำอย่างระมัดระวังไม่ให้ติดกับดักก็แล้วกัน

7. Opened Collaboration: ทีมและองค์กรทำงานร่วมกันเป็น Real team มีความเห็นต่างแต่เป็นหนึ่งเดียว ผสานความเก่งของแต่ละคนแต่ละฝ่ายให้เป็น Synergy ที่สำคัญ เราต้องมี transparency และ authentic coommunication คือมีการพูดคุยอย่างโปร่งใส อย่างจริงใจเพื่อจะช่วยกันแก้ปัญหาและนำพาองค์กรให้ถึงเป้าหมายไปด้วยกัน

8. Protect and Build Talents
ช่วงเศรษกิฐไม่ดี ก็จะมีคนเปลี่ยนงานกันเยอะ สิ่งที่น่ากลัวคือ คนเก่งคนดีลาออกเหลือแต่คนที่เช้าชามเย็นชาม เราต้องรักษาดูแลคนเก่งคนดีเอาไว้ให้ได้ ให้เขาเหล่านั้นมีโอกาสแสดงฝีมือให้เต็มที่ ให้มีพลังบวกที่จะช่วยกันนำพาองค์กรไปข้างหน้ากับผู้นำ

เป็น 8 ข้อคิดแบ่งปันสำหรับผู้นำ สถานการณ์ตลาดเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ขอให้เราทำให้ดีกว่าเมื่อวาน ดีกว่าคู่แข่ง และดีกว่าตลาด ไม่ว่าสถานการณ์แบบไหนองค์กรเราก็จะแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างมั่นคง

ในชีวิตส่วนตัว เราก็ควรดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท ใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมกับกำลัง มีความสุขพอเพียง มีความสุขแบบง่ายๆ มีความสุขที่มีงานทำถึงแม้จะหนักและยากสักหน่อย ที่สำคัญไม่ควรสร้างหนี้สินเพิ่ม ไม่มีหนี้สินยิ่งดีจะยิ่งมีความสุข

Capture 32

Avatar photo