นายกฯนั่งหัวโต๊ะประชุมนบข. รับทราบสถานการณ์การผลิต -การส่งออก -ราคา -การบริโภคและสต็อกข้าวโลกปี2562/63 ขณะที่การส่งออกข้าวไทยเจอมรสุมหนัก ทั้งคู่แข่ง-ค่าเงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 2 ปี เผย 8 เดือนไทยส่งออกลดลงทั้งปริมาณและมูลค่าร่วม 20%
เมื่อเร็วๆนี้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 1/2562 โดยมีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการ พร้อมด้วยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์การผลิตข้าวโลกปีการผลิต 2562/63 คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวโลกจะมีประมาณ 497.86 ล้านตัน ลดลง 0.76 ล้านตัน หรือ 0.15% จากปีการผลิต 2561/62 ที่มีปริมาณ 498.62 ล้านตัน เนื่องจากผลผลิตข้าวของประเทศผู้ผลิตหลักลดลง ได้แก่ จีน ลดลง 2.49 ล้านตัน อินเดีย ลดลง 0.63 ล้านตัน และสหรัฐ ลดลง 0.60 ล้านตัน
โดยเฉพาะรัฐบาลจีนได้เร่งการปรับโครงสร้างการเพาะปลูกเพื่อปฏิรูปด้านอุปทาน โดยจะปรับลดปริมาณผลผลิตให้เหมาะสมและมีคุณภาพมากขึ้น ขณะที่สหรัฐคาดการณ์ว่าจะมีพื้นที่เพาะปลูกลดลง โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนใต้ เนื่องจากราคาข้าวปีที่ผ่านมาปรับตัวลดลง เกษตรกรจึงหันไปเพาะปลูกพืชชนิดอื่น
การบริโภคข้าวโลกปี 2563 คาดการณ์ว่าจะมีประมาณ 494.50 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.93 ล้านตัน หรือ 1.01% จากปี 2562 ที่มีประมาณ 489.57 ล้านตัน เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคในประเทศหลักยังคงเพิ่มขึ้น เช่น จีน อินเดีย และฟิลิปปินส์ รวมทั้งประเทศในภูมิภาคแอฟริกา
การค้าข้าวโลกปี 2563 คาดการณ์ว่าจะมีประมาณ 46.92 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.62 ล้านตัน หรือ 1.34% จากปี 2562 มีประมาณ 46.30 ล้านตัน เนื่องจากประเทศผู้ส่งออก อย่างจีน อินเดีย และสหรัฐ มีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ผู้นำเข้าหลักอย่างแอฟริกาใต้ ไนจีเรีย แคเมอรูน และเบนิน มีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้น
ปริมาณสต็อกข้าวโลกปลายปี 2563 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 174.66 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3.36 ล้านตัน หรือ1.96% จากปี 2562 ที่มี171.30 ล้านตัน เนื่องจากสต็อกข้าวเก่าของจีนมีปริมาณสูง
7เดือนไทยส่งออกข้าวลดลง
การส่งออกข้าวไทยเทียบกับประเทศผู้ส่งออกสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 1 มกราคม – 13 สิงหาคม 2562 อินเดียส่งออกข้าวได้มากเป็นอันดับ 1 ของโลก ประมาณ 7.00 ล้านตัน รองลงมาไทย 5.27 ล้านตัน เวียดนาม 4.05 ล้านตัน ปากีสถาน 2.44 ล้านตัน และสหรัฐ 1.86 ล้านตัน ทั้งนี้ การค้าข้าวในตลาดโลกช่วง7 เดือน (ม.ค. – ก.ค. 62) ยังคงชะลอตัวตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยไทยส่งออกลดลง เนื่องจากค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง ความต้องการซื้อของประเทศคู่ค้ามีเข้ามาน้อย โดยเฉพาะตลาดเอเชียและแอฟริกา
ส่วนอินเดีย ส่งออกลดลงเนื่องจากอุปสงค์จากภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางลดลง เวียดนามส่งออกลดลงเช่นกัน เนื่องจากความต้องการนำเข้าข้าวจากจีน เป็นตลาดหลักลดลง ประกอบกับจีนกำหนดมาตรการนำเข้าข้าวที่เข้มงวด ขณะที่ปากีสถาน ส่งออกเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความต้องการซื้อจากภูมิภาคตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียเพิ่มขึ้น
ราคาข้าวเริ่มกระเตื้องขึ้นทุกประเทศ
สำหรับราคาข้าวไทยเทียบกับประเทศผู้ส่งออกสำคัญ ในช่วงเดือนสิงหาคม 2562 ราคาส่งออกข้าวไทยทุกชนิดปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง แต่คำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดเอเชียและแอฟริกา เวียดนามราคาส่งออกข้าวส่วนใหญ่ทรงตัว ยกเว้นข้าวหอมที่มีราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความต้องการซื้อจากฟิลิปปินส์ และภูมิภาคแอฟริกา ขณะที่ปากีสถาน ราคาส่งออกข้าวปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากมีความต้องการซื้อจากเอเชีย โดยเฉพาะจีน รวมทั้งภูมิภาคแอฟริกา สำหรับอินเดีย ราคาส่งออกข้าวลดลง เนื่องจากเงินรูปีอินเดียอ่อนค่าในช่วงสั้น ๆ อีกทั้งประเทศผู้ซื้อมีสต็อกข้าวที่ซื้อไปก่อนหน้าปริมาณเพียงพอ จึงยังไม่มีความต้องการซื้อช่วงนี้
ส่งออกข้าวคุณภาพสูง 5 เดือนลด14%
ขณะที่ปริมาณและมูลค่าการส่งออกข้าวคุณภาพสูง (Premium Rice) ช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2562 การส่งออกข้าวคุณภาพสูงของไทย มีปริมาณ 471,288 ตัน มูลค่า 553.93 ล้านดอลลาร์ โดยปริมาณและมูลค่าลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่มีปริมาณ 548,700 ตัน มูลค่า 593.40 ล้านดอลลาร์ หรือลดลง 14.11% และ 6.65% ตามลำดับ เพราะราคาส่งออกข้าวไทยเกือบทุกชนิดปรับตัวสูงขึ้น ยกเว้นข้าวหอมมะลิที่ราคาปรับตัวลดลง
สำหรับการส่งออกข้าวคุณภาพสูงชนิดอื่น ๆ อาทิ ข้าวเคลือบวิตามิน ข้าวกล้องหอมมะลิอินทรีย์และข้าวกล้องดำ พบว่า มีปริมาณการส่งออก 16,337 ตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่มีปริมาณ 18,804 ตัน หรือลดลง 13.12% แต่มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 21.13 ล้านดอลลาร์ จากช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่มีมูลค่า 19.47 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 8.51%
สาหัสส่งออกข้าวไทยปีนี้ลดทั้งปริมาณ-มูลค่า
แนวโน้มสถานการณ์ตลาดข้าวไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 สิงหาคม 2562 ไทยส่งออกข้าวไปแล้วประมาณ 5.29 ล้านตัน มูลค่า 2,805 ล้านดอลลาร์ (88,233 ล้านบาท) โดยปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลง จากช่วงเดียวกันของปี 2561 คิดเป็น 22.38% และ 17.07% ตามลำดับ ตลาดสำคัญที่ส่งออกลดลง ได้แก่ จีน มาเลเซีย ฮ่องกง เยเมน โกตติวัวร์ เคนยา และโตโก เป็นต้น
ขณะที่ชนิดข้าวที่ส่งออกลดลง ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว และข้าวเหนียว สาเหตุหลักมาจากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่อง ปัจจุบันมูลค่าต่ำกว่า 31 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์ ถือว่าแข็งค่าที่สุดในรอบ 2 ปี ทำให้ข้าวไทยมีราคาสูงกว่าประเทศคู่แข่งมาก และแข่งขันได้ยากในตลาดต่างประเทศ อีกทั้ง จีนซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทยมีสต็อกข้าวปริมาณมาก และมีการระบายข้าวเก่าออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อุปทานในตลาดมีมากและบางส่วนส่งออกไปยังตลาดแอฟริกา ทำให้ส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในแอฟริกา
สมาคมผู้ส่งออกหั่นเป้าปีนี้เหลือ 9 ล้านตัน
ทั้งนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้ปรับลดคาดการณ์เป้าหมายการส่งออกในปี 2562 เหลือ 9 ล้านตัน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 9.5 ล้านตัน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ ได้จัดทำแผนตลาดเพื่อช่วยส่งเสริมการส่งออกข้าวและสินค้านวัตกรรมข้าวไทยในต่างประเทศ โดยมีกิจกรรมการดำเนินงานต่าง ๆ ได้แก่ 1. รักษาตลาดเดิม 2. ขยายตลาดใหม่ 3. ฟื้นตลาดเก่าในอิรัก 4. กำกับดูแลและเข้มงวดคุณภาพข้าวที่ส่งออกไปตลาดต่างประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด 5. การส่งเสริมสินค้าเกษตรนวัตกรรมไทย
ขอบคุณภาพจาก : thaigov.go.th