“นายกรัฐมนตรี” มั่นใจ! มาตรการกระตุ้นช่วยดันเศรษฐกิจ 2 ไตรมาสสุดท้ายกระเตื้องขึ้น ชี้การแก้ปัญหาระยะยาวต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่กล่าวหาว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริงว่า เรื่องนี้ต้องศึกษาเนื้อหาของชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ละเอียด เพราะจะครอบคลุมหลายภาคส่วน รวมถึงประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนอย่านำเสนอกันแค่ว่า ครม.นำเสนอมาตรการออกไปเท่านั้น แต่ขอให้ร่วมกันนำเสนอข้อมูลรายละเอียดของชุดมาตรการด้วย
ทั้งนี้ ชุดมาตรการนี้เป็นเพียงการกระตุ้นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่การแก้ปัญหาระยะยาว จะต้องมีการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ วิธีคิดและวิธีการทำงาน ไปพร้อมๆกัน ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลไม่ได้ช่วยเหลือชาวนาเพียงอย่างเดียว แต่จะมีการช่วยเรื่องปาล์มน้ำมัน และยางพาราตามมาอีก
“มาตรการที่ทำมาทั้งหมด ต้องการพยุงให้ตัวเลขจีดีพีปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 – 4 เพราะกว่าที่รัฐบาลจะได้ใช้งบประมาณประจำปี 2563 ก็คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปีหน้า” นางนฤมล กล่าว
ส่วนมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องเป็นรายไตรมาส หากช่วงไหนเศรษฐกิจตกต่ำ ต้องเข้าไปดูว่ารัฐบาลจะทำอะไรได้บ้าง บางอย่างก็ต้องคิดทบทวนให้ละเอียด เช่น ฟรีวีซ่า ที่มีผลกระทบหลายด้าน แม้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเตือนว่าหากไม่ดำเนินมาตรการ อาจทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ ครม.ได้พิจารณากันอย่างรอบคอบถึงผลดีผลเสียในทุกมิติ ตั้งแต่ความมั่นคง ความพร้อมของสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อพิจารณารอบด้านแล้ว จึงไม่เห็นชอบกับข้อเสนอดังกล่าว และรัฐบาลก็คงต้องหามาตรการเสริมอย่างอื่นเข้าไปแทนอีกต่อไป เช่นเดียวกับข้อเสนอให้เปิดสถานบันเทิงได้ถึง 04.00 น.ก็ต้องไปทบทวนดูว่าสามารถทำได้หรือไม่ เพราะไม่อยากให้การแก้ปัญหาหนึ่งนำไปสู่อีกปัญหาหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสังคม
“นายกฯ ฝากทุกคนช่วยสื่อสารเรื่องเหล่านี้โดยละเอียดด้วย อยากให้ร่วมมือกันทุกภาคส่วน แล้วความมั่นใจก็จะเกิดขึ้นตามมา การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเป็นเรื่องระยะยาวที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องเพื่ออนาคตของลูกหลานไทย และเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาทำความเข้าใจ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบชีวิตคนไทย จึงศึกษาเรื่องเศรษฐกิจอย่างถี่ถ้วน และพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนจะตัดสินใจในเรื่องใด ขอให้คำมั่นว่าไม่มีสิ่งใดจะสามารถทำให้นายกฯ ตัดสินใจในหนทางที่ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนได้แน่” นางนฤมล กล่าว
