กลุ่มบริษัทชั้นนำด้านปิโตรเคมี “อินโดรามา เวนเจอร์ส” ทุ่ม 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือ 46,100 ล้านบาท ลงทุนด้านรีไซเคิล ในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคตระหนักมากขึ้น ถึงผลกระทบจากพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และจากการที่บรรดาเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบต่างๆ เริ่มผลักดันให้มีการรีไซเคิลมากขึ้น
เว็บไซต์รอยเตอร์ส รายงานว่า ธุรกิจหลักของอินโดรามา คือ การผลิตพลาสติกเพท (PET) โพลิเมอร์ที่นำไปใช้สำหรับการผลิตขวดพลาสติก และไฟเบอร์ ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ เข็มขัดนิรภัย และยางรถยนต์ ซึ่งในช่วง 12 เดือน นับถึงวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา อินโดรามา เวนเจอร์ส ผลิตพลาสติกเพทได้เกือบ 5,000 กิโลตัน
“เรากำลังลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์ ในด้านรีไซเคิล ในช่วง 5 ปีข้างหน้า” นายอาลก โลเฮีย ซีอีโออินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าว และว่า การลงทุนดังกล่าว รวมถึง การควบรวมการลงทุนใหม่ และเก่าเข้าไว้ด้วยกัน และการเข้าซื้อกิจการที่มุ่งเน้นไปในธุรกิจรีไซเคิลขวด
ปัจจุบัน อินโดรามา มีโรงงานรีไซเคิลอยู่ 11 แห่งทั่วโลก รวมถึง โรงงานในไทย เม็กซิโก และฝรั่งเศส โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มเครดิตสีเขียวให้กับตัวเอง เพื่อรับมือกับกฎข้อบังคับใหม่ๆ ของรัฐบาลประเทศต่างๆ รวมถึง ความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนไป
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป ประกาศเป้าหมาย ที่จะให้มีการนำพลาสติกรีไซเคิล มาผสมอยู่ในพลาสติกเพท 25% ภายในปี 2568 โดยมีเป้าหมายว่า เมื่อถึงที่สุดแล้วจะให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 90% ของพลาสติกเพทโดยรวม
หลังจากปี 2566 ไปแล้ว อินโดรามามีแผนที่จะลงทุนเพิ่มอีก 500 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าของบริษัทบรรลุเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนพลาสติกรีไซเคิลดังกล่าว
ทั้งนี้ นายโลเฮีย เริ่มทำธุรกิจอินโดรามา ในไทย มาตั้งแต่ปี 2537 ด้วยจำนวนพนักงานราว 200 คน ซึ่งนับแต่นั้น บริษัทก็เติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมด 18,000 คน ใน 31 ประเทศ ซึ่งบริษัทมีรายได้ราว 40% มาจากอเมริกาเหนือ และราว 30% มาจากยุโรป
“ทั่วโลกมีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรีไซเคิลเพท แต่ปัญหาคือ วิธีการจัดเก็บ”
วูด แมคเคนซี เคมีคัลส์ บริษัทที่ปรึกษา ประเมินว่า เมื่อปี 2560 สหภาพยุโรป (อียู) มีอัตราการเก็บขวดเครื่องดื่มเพทอยู่ที่ 58% โดยอินโดรามา ซึ่งมีลูกค้ารวมถึง โคคา โคลา เป็ปซี่โค และเนสท์เล่ บอกด้วยว่า กำลังทำงานร่วมกับเจ้าของแบรนด์ และรัฐบาลชาติต่างๆ เพื่อเปิดทางให้มีการนำขวดมารีไซเคิลเป็นขวดใหม่ได้มากขึ้น
นายโลเฮียเปิดเผยด้วยว่า บริษัทยังมีแผนที่รอการอนุมัติอยู่ สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจอื่นๆ รวมถึง โอเลฟิน ไฟเบอร์ส และอาหารสัตว์ อีกราว 2,500 ล้านดอลลาร์
ในเดือนนี้ อินโดรามา ยังเพิ่งเข้าซื้อกิจการธุรกิจด้านสารเคมี ของฮันท์สแมน คอร์ป ในออสเตรเลีย อินเดีย และรัฐเท็กซัส สหรัฐไป มูลค่าราว 2,100 ล้านดอลลาร์ เพื่อหนุนการดำเนินงานในธุรกิจกลางน้ำของบริษัท