ซีอีโอหัวเว่ย ประกาศ บัญชีดำสหรัฐไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากปัจจุบันอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงส่วนใหญ่ ไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนของสหรัฐ แต่กลับมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เผย “ทรัมป์” คอยโปรโมทให้ผู้คนทั่วโลกรู้ถึงความล้ำสมัยของผลิตภัณฑ์หัวเว่ย ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาด
นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารหัวเว่ย กล่าวถึงกรณีการขึ้น บัญชีดำ (Entity List) ของสหรัฐอเมริกาว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อหัวเว่ยมากเท่าใดนัก เพราะปัจจุบันอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงส่วนใหญ่ของหัวเว่ย ไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนของสหรัฐ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ได้ประกาศขยายใบอนุญาตทางการค้า เพื่อให้หัวเว่ยสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ และบริการจากบริษัทอเมริกัน และให้บริการแก่ลูกค้าที่มีอยู่ได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การรวมหัวเว่ยเข้าไว้ในรายชื่อบัญชีดำถือว่าไม่ยุติธรรม เพราะหัวเว่ยไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กลับต้องไปอยู่ในรายชื่อดังกล่าว
ปัจจุบัน อุปกรณ์ที่ทันสมัยส่วนใหญ่ของหัวเว่ย ไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนของสหรัฐเลย และอุปกรณ์เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดยังมีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าเมื่อก่อนถึง 30% โดยในปีนี้ หัวเว่ยจะผลิตสถานีฐาน 5จี ได้ 600,000 ชุด และอย่างน้อย 1.5 ล้านชุดในปีหน้า
“นั่นหมายถึงว่า เราไม่ต้องพึ่งพาบริษัทอเมริกันเพื่อความอยู่รอดของเราในด้านนี้เลย อย่างไรก็ตาม เราก็จะยังอ้าแขนต้อนรับบริษัทอเมริกันอยู่เสมอ ตราบเท่าที่พวกเขายังสามารถจัดหาผลิตภัณฑ์ให้เราได้ เราก็จะยังซื้อชิ้นส่วนจากพวกเขาในปริมาณมากๆ ต่อไป เราเชื่อว่าโลกาภิวัตน์จะสร้างประโยชน์ให้ทุกคน เราจึงจะไม่เลือกปิดประตูใส่ใคร แม้ว่าเราจะสามารถผลิตชิ้นส่วนบางอย่างได้ด้วยตัวเองก็ตาม”นายเหรินกล่าว
นอกจากนี้ยังพบว่า บริษัทอเมริกันบางแห่งได้เริ่มกลับมาขายชิ้นส่วนให้แก่หัวเว่ยแล้ว และปริมาณการสั่งซื้อจากหัวเว่ยไม่เคยลดน้อยลง
“หากไม่มีทรัมป์คอยโปรโมทให้ ผู้คนมากมายทั่วโลกคงไม่ได้ทราบว่าผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยนั้นมีความล้ำสมัยมากเพียงใด ทรัมป์นี่แหละเป็นคนที่ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้เรา” นายเหริน กล่าว
เห็นได้จากสถิติของบริษัทในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หัวเว่ยมีผู้ให้บริการเครือข่ายมาเยี่ยมชมโรงงานเพิ่มขึ้นถึง 49% โดยต้องการมาตรวจดูว่า หัวเว่ยจะยังจัดหาผลิตภัณฑ์ให้ได้ และเมื่อทราบว่าผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยไม่จำเป็นต้องใช้ชิ้นส่วนจากสหรัฐ ผู้ให้บริการเครือข่ายก็ยิ่งมั่นใจ และสั่งซื้อจำนวนมาก
สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2562 รายได้ของหัวเว่ยพุ่งสูงถึง 401,300 ล้านหยวน ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้น 23.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน
