“ออริจิ้น” เดินแผนรองรับการลงทุน 1.5 ล้านล้านบาทในอีอีซี ด้วยการผุดเฟสแรก ออริจิ้น สมาร์ทซิตี้ ระยอง มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทเดือนกันยายนนี้ ใจกลางศูนย์กลางธุรกิจใหม่ระยอง สร้างเมืองอัจฉริยะและไลฟ์สไตล์ฮับครบวงจร ทั้งคอนโดมิเนียม คอมมูนิตี้มอลล์ รีเทล โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ และอาคารสำนักงาน
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้กว้านซื้อที่ดินหลายแปลงบริเวณหัวมุมแยกเนินสำลี อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ติดถนนสุขุมวิทจนรวมกันเป็นที่ดินผืนเดียวกว่า 24 ไร่ เพื่อพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้กลายเป็นทั้ง ศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) เมืองอัจฉริยะ และไลฟ์สไตล์ฮับครบวงจร รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท
โครงการมิกซ์ยูสดังกล่าว จะประกอบด้วย คอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในระยอง คอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ และเซอร์วิสออฟฟิศในพื้นที่เดียว ภายใต้ชื่อโครงการ “ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง” ซึ่งเป็นการต่อยอดกลยุทธ์ บลู โอเชียน ของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในทำเลศักยภาพที่ยังมีการแข่งขันไม่สูงมากนัก
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Beyond A Living Platform ยกระดับการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของคนในพื้นที่ ด้วยแพลทฟอร์มการอยู่อาศัยที่ทำให้สามารถจัดการใช้ชีวิตได้อย่างอัจฉริยะ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาอำนวยความสะดวกในหลากมิติของการใช้ชีวิต
นอกจากนี้ ยังเป็นการลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตจากระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของภาครัฐและเอกชนระยะ 5 ปี (ปี 2560-2564) ที่ทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดในอีอีซี ทั้งระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีเมกะโปรเจ็คท์ด้านต่างๆ เกิดขึ้นอย่างครบถ้วน เชื่อมโยงการคมนาคมทั้งทางบก ผ่านรถไฟความเร็วสูง ทางอากาศผ่านสนามบินอู่ตะเภา และทางน้ำผ่านท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด ส่งผลให้พื้นที่ภายในอีอีซี มีศักยภาพจะก้าวสู่การเป็นย่านใจกลางธุรกิจแห่งใหม่อีกแห่งหนึ่งของไทย
ด้านนายอรุช ช่างทอง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจใน อีอีซี บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า คอนเซ็ปต์ Beyond A Living Platform ของ Origin Smart City Rayong ประกอบด้วย 3 แกนหลัก ได้แก่ 1.Smart Tech นำเรื่องไอโอทีมาทรานส์ฟอร์มสู่การอยู่อาศัยแห่งอนาคต 2.Smart Eco ใส่ใจระบบการจัดการพลังงาน ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ และ 3.Smart Community ภายในโครงการมิกซ์ยูสประกอบด้วยพื้นที่สำหรับคอมมูนิตี้ พร้อมมอบบริการครบวงจร เหมาะกับการเป็นไลฟ์สไตล์ฮับของพื้นที่ พร้อมผลักดันให้เกิดอีโคซิสเท็มในรูปแบบ สังคมไร้เงินสด
ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างจัดทำโรดแมปการพัฒนาโครงการดังกล่าวให้สมบูรณ์ โดยคาดว่าจะจัดทำแล้วเสร็จ และสามารถเปิดเผยแผนการพัฒนาพื้นที่ในเฟสแรกได้ใน เดือนกันยายนนี้
